ส่งต่อให้เพื่อน |
เกาะยอ จังหวัดสงขลา อำเภอเมือง เกาะยอนับว่ายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ทั้งความสวยทางธรรมชาติ และความงดงามของวิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คนไปเที่ยวถ่ายรูปคงไม่อยากเจอฝนตก โชคดีจังทริปล่องใต้ของพวกเรา 8 วัน ฝนตกเกือบทุกวัน ถ้าไม่ตกก็เจอบรรยากาศอึมครึม มาคุ ไม่เห็นแสงแดดกันเลยทั้งวัน วันนี้ตั้งใจจะไปเที่ยว "เกาะยอ "กัน ใครบ้างคนในคณะบ้านแสนสุขนี้ตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะครั้งสุดท้ายที่มาเกาะยอนั้น ยังคงต้องนั่งเรือหรือแพนี้แหล่ะข้ามมา พวกเราเดากันคร่าวว่าๆน่าจะผ่านมาหลายทศวรรษอยู่เหมือนกันนะเนี้ย สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างแดนนั้น เกาะยอนับว่ายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ทั้งความสวยทางธรรมชาติ และความงดงามของวิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย ใครชอบเที่ยวแนวนี้รับรองก็คงจะปลื้มกันไปไม่มากก็น้อย สำหรับคนพื้นที่แล้ว"เกาะยอ" อาจไม่มีอะไรหวือหวามากนักนอกจากการมานั่งกินข้าวแกล้มบรรยากาศทะเลสาบ ซึ่งร้านอาหารริมทะเลสาบแถวนี้นั้นก็มีมากมายให้เลือกกัน แล้วก็แวะซื้อของกินของใช้ติดไม้ติดมือกลับบ้านไป และถ้าใครอยากดื่มด่ำกลับบรรยาศให้เต็มอิ่มหน่อยก็ต้องนอนค้างอ้างแรมกันซะคืนหรือสองคืนนั้นแหล่ะครับ ที่วินรถตู้ตอนเช้าจากหอนาฬิกาที่หาดใหญ่ กับบรรยากาศที่อึมครึมเหมือนฝนพร้อมจะตกในทุกเวลา พวกเรานั่งรถตู้หาดใหญ่-สงขลา มาลงที่ห้าแยกน้ำกระจาย แล้วต่อรถสองแถวมาลงที่หน้าพิพิธภัณฑ์คติชน โดยตั้งใจกันไว้ว่าในช่วงเข้านี้คงจะเดินถ่ายรูปเล่นแถวสะพานติณสูลานนท์ กับบรรยากาศทะเลสาบก่อน แล้วช่วงบ่ายๆ หรือฝนตกค่อยเข้าไปพิพิธภัณฑ์กัน อา...ดูเหมือนเป็นการวางแผนที่ดี เราเดินเข้าไปสอบถามชาวบ้านที่กำลังเก็บกุ้งกันอยู่ได้ใจความว่า หากจะเดินรอบหมู่บ้านก็น่าจะสักประมาณ 8-10 กิโลเห็นได้มั้ง ไอยะ... เรื่องเดินไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าต้องเดินกันจริงๆวันนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันอีกแล้ว... น่าเสียดายที่แถวนี้ไม่มีจักรยานให้เช่า อารมณ์ และบรรยากาศการท่องเที่ยวแบบ อีโค-ทัวร์ ที่เกาะยอนั้นมัน..ใช่เลย ทำไมถึงไม่มีจักรยานให้เช่าปั่นเที่ยวน้อ? พวกเราได้แต่บ่นกันไป และสุดท้ายต้องไปลงเอยซ้อนท้ายรถเครื่องรับจ้างพาเที่ยวครับงานนี้ และรถเครื่องที่นั่งไปนี้ไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆครับ อยากจอดตรงไหนอยากแวะตรงไหนบอก น้าๆแกจัดให้แบบไม่มีอารมณ์เสีย พวกเราจ่ายค่ารถไปคันละสองร้อยต่อคนกับเวลาเกือบร่วมๆสามชั่วโมงก่อนที่ทุกคนจะเปียกเป็นหมาเพราะฝนตกลงมาอย่างแรงแบบไม่มีปีมีขลุ่ย ฝนตกอยู่ไม่นาน ท้องเริ่มร้อง...เที่ยงแล้ว และพวกเราก็หิวแล้ว กินที่ไหนกันดี? เป็นคำถามที่ดีจริงในช่วงเวลานี้ ฟังดูคล้ายเสียงจากสวรรค์เลย ร้านอาหารบนเกาะยอนั้นถือว่าเยอะทั้งที่ได้รับรู้จากอินเตอร์เนท และเห็นตัวเป็นๆเมื่อตอนซ้อนท้ายรถเครื่องรับจ้างเมื่อก่อนหน้านี้ เฮ้ย..ร้านดัง ร้านใหญ่ คนเค้าไปกินแล้วรีวิวกันมาเยอะแล้ว..ไม่ปลื้ม ไม่อร่อยก็มี... เอาร้านโนเนมเป็นไง? ไม่มีใครตอบ พวกเราเดินกันต่อไปเรื่อยๆ จนมาเจอร้านอาหารร้านนี้ครับ ร้านโกชัย.. สเปคเลย ร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่ไม่โต แถมไม่เคยได้ยินชื่อด้วย และบรรยากาศก็ริมทะเลสาบ มติผ่านเป็นเอกฉันท์ พวกเราตัดสินใจฝากท้องมื้อเที้ยงไว้ที่นี้ครับ ร้านเล็กๆ สองคนผัวเมียช่วยกันทำช่วยกันเสริฟ์ อารมณ์ดี บริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส และอาหารรสชาติถูกปาก จริงๆแล้วมันเข้าขั้นอร่อยเลยหล่ะครับ ที่ต้องเผ็ดต้องแซ่บ..มากันครบๆ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ พวกเราอุ่นเครื่องจานแรกเบาๆ ด้วยกุ้งแช่น้ำปลาครับ ตามด้วยทอดมันกุ้ง ต้มยำรวม ปลาดุกทะเลผัดเครื่องแกง กระดูกอ่อนทอดกระเทียม และปิดท้ายด้วยปลากระพงผัดฉ่าครับ อร่อยทุกจานโดยเฉพาะต้มยำ กับเมนูปลากระพงผัดฉ่านั้นขอบอกว่าอร่อยมากครับ อยากรู้ว่าทำไมถึงอร่อยไปดูรีวิวฉบับเต็มร้านโกชัยได้ที่นี่ครับ โกชัย ซีฟูดส์ http://www.bansansuk.com/restaurant/go-chai-seafood/ จากตัวเปียกจนแห้ง จากท้องหิวจนอิ่ม พวกเราเดินย้อนมาตรงจุดที่ลงรถครั้งแรก เพื่อมาพิพิธภัณฑ์คติชนกันครับ ที่นี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวิถีชีวิตของชาวใต้ วัฒนธรรมพื้นบ้านท้องถิ่นอันมีเอกลักษณ์เฉพาะทั้งประวัติศาาสตร์ทางโบราณคดี และศิลปหัตถพรรม ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาของกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในภาคใต้ของไทย โดยจัดแสดงเป็นห้องต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ และที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวของเกาะยอด้วยนะครับ ซึ่งเราจะมองเห็นสะพานติณสูลานนท์ที่ทอดยาวเชื่อมเกาะยอกับฝั่งแผ่นดินอีกส่วนไว้ด้วยกัน รายละเอียดพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา http://www.bansansuk.com/travel/folklore-museum/ ปิดท้ายด้วยการไปเที่ยวตลาด...คนพื้นที่ก็เรียกว่าตลาดเกาะยอ ตลาดเล็กๆอยู่ริมถนนทั้งสองฝัง ตลาดนี้นักท่องเทียวนิยมซื้อของติดไม้ติดมือกัน ส่วนของขึ้นชื่อของที่เกาะยอนี้ก็มี ข้าวยำใบยอ ยำสาหร่ายทะเล สวา(ละมุด) จำปาดะ(ขนุน) ผ้าเกาะทอเกาะยอ และก็พวกอาหารทะเลแปรรูปต่างๆมากมาย มาเกาะยอทั้งทีต้องลองนี้เลยนะครับ ยำสาหร่าย หน้าตาคล้ายเส้นหมี่แต่เป็นสาหร่ายครับ เป็นอาหารพื้นเมืองชาวเกาะยอ สาหร่ายนี้มีชื่อเรียกว่าสาหร่ายผมนาง หรือชาวบ้านเรียกว่า "สาย" ครับ เอามาปรุงรสด้วยเครื่องยำอย่าง มะพร้าวคั่ว น้ำตาลปีป กะทิ น้ำมะขาม ถั่วลิสง พริกขี้หนู หอมแดง รสชาติออกเปรี้ยวหวาน ส่วนเส้นสาหร่ายนั้นจะกรุบๆนิดๆ กินกับใบชะพูล หรือใบทองหลางครับ สาหร่ายผมนาง หรือ สายนั้นจะพบในเฉพาะพื้นที่ทะเลสาบสงขลารอบๆเกาะยอเท่านั้นครับ เอาเป็นว่าถ้ามาเกาะยอต้องลองชิมนะครับ ทีตลาดแห่งนี้ก็เห็นมีขายอยู่หลายเจ้าเหมือนกัน อยากจะบอกว่าเราซื้อชิมอยู่สองสามเจ้า ทั้งปริมาณ และรสชาตินั้นอร่อยใกล้เคียงกันมาก เอาเป็นว่าบ้านแสนสุขแนะนำให้ซื้อร้านที่คนขายยิ้มๆ อัธยาศัยดีๆแล้วกันนะครับ ส่วนข้าวยำใบยอป้าหนูเจ้าดังของเกาะยอนั้นเราไปถึงตลาดเย็นมากแล้วแกขายหมดตั้งแต่บ่ายๆแล้วครับก็เลยอดชิมกันไป แต่ทว่ามื้อเทียงที่ผ่านมาที่ร้านโกชัยนั้นแกไปซื้อข้าวยำแถวๆนั้นกะว่าจะมากินเองครับ แต่พวกเรานึกกันเสียงดังหน่อยแก่เลยแบ่งให้ชิมห่อนึงครับ รสชาติอร่อยถูกปากดีจริง เมนูข้าวยำนั้นเป็นของหากินยากพอสมควรนะครับถ้าไม่ได้อยู่ภาคใต้ตอนล่างด้วยแล้ว และใช่ว่าจะถูกปากทุกคน แต่สำหรับพวกเรานั้นเรากันเกือบทุกอย่างครับ(มีโต๊ะกับเก้าอี้มั้งครับที่ไม่กิน) เอาเป็นว่าถ้าไม่เคยกินก็ลองสักครั้งจะได้ไปเล่าให้เพื่อนฟังถูกว่าข้าวยำรสชาติมันเป็นยังไงกัน ปิดท้ายก่อนที่รถจะหมดกลับหาดใหญ่ไม่ได้หากค่ำมืดกว่านี้ ซื้อจำปาดะที่แม่ค้าเค้าแกะแล้วติดมือกลับไปกินกันต่อเล่นๆได้นะครับ จำปาดะเป็นผลไม้จำพวกขนุนมีรสชาติเข้มข้น หวานมัน และมีกลิ่นหอมกว่าขนุนที่เราคุ้นชินกัน ไม่ต้องกลัวอ้วนครับถ้าจะคิดถึงเรื่องกินแล้ว กินให้มีความสุขครับ จำปาดะนี้ที่กรุงเทพๆหากินยากมากมาย นาทีแรกทีพวกเราเหยียบเกาะยอพวกเราซัดกันไปอิ่มใหญ่แล้วครับ หายอยากไปพอควรกับจำปาดะสุกๆหอมๆอร่อยๆ ก่อนกลับพวกเราได้แต่หันซ้ายแลขวาว่าจะซื้ออะไรกลับไปด้วยดี ครับ..จำปาดะ อีกครึ่งกิโลกะว่าจะกินกันให้ร้อนในไปเลย และนั้นก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเกาะยอ ถึงแม้ว่าฟ้าจะไม่ใส่ และเปียกแต่เราก็เที่ยวกันแบบสบายใจสุดๆ และโหนรถสองแถวออกจากตลาดด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความคิดถึง....เกาะยอ
การเดินทาง |