ส่งต่อให้เพื่อน |
วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอพรหมบุรี ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 130 ถนนสายเอเชีย หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โทร 036-599381 , 036-599159 |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เมืองไทยเป็นเมืองที่มีวัดมากมาย โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะมานมัสการหลวงพ่อดังๆ เช่นวัดมงคลบพิตร วัดใหญ่ชัยมงคล หรือไม่ก็วัดพนันเชิงวรวิหาร และอีกหลายวัดที่ไม่ได้กล่าวถึง การที่ได้ไหว้พระเก้าวัดนั้น เป็นศิริมงคลแก่ชีวิตอย่างมาก แล้วนอกเหนือจากการไหว้พระ แล้วยังมีการปฏิบัติอย่างอื่นๆ ที่ทำให้เข้าถึงธรรมะได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทีมงานบ้านแสนสุข ขอแนะนำ การนั่งสมาธิปฏิบัติกรรมฐานครับ ซึ่งวัดที่จะแนะนำนี้มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในเรื่องการนั่งสมาธิปฏิบัติกรรมฐาน และ มีสถานที่ให้พร้อมสรรพ วัดที่กล่าวถึงนี้ ก็คือวัดอัมพวันครับ มาดูรายเอียดกันดีกว่าครับ ในเวลาต่อมาพระครูญาณสังวรได้ถึงมรณภาพลง รวมสิริอายุได้ 99 ปี จากนั้นไม่ปรากฏมีหลักฐานว่าพระภิกษุรูปใดได้เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา จนถึงปี 2310 ได้ปรากฏมีหลักฐานว่านายเจียก เป็นผู้สร้างพระไตรปิฎกลายรดน้ำถวายไว้กับวัดอัมพวัน 1 ตู้ และในปี 2366 อุบาสิกาแก้วได้มีศรัทธาสร้างตู้พระไตรปิฎกลายรดน้ำถวายไว้กับวัดอัมพวัน 1 ตู้ ซึ่งเป็นในระยะสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) จึงได้ปรากฏกลักฐานว่า มีท่านพระครูพรหมนครบวรราชมุนีชินสีห์ภานุวัฒสังฆปาโมกข์เป็นผู้ครองตำแหน่งเจ้าอาวาสดูแลปกครองวัดอัมพวัน ทั้งยังมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะเมืองอีกด้วย ต่อมาในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ได้มีการทำพิธีผูกพันธสีมาอักเป็นการภายใน ได้พระราชทานเรือ ยาว 1 ลำ ชื่อ “ก้านตอง” บรรทุกคนได้ 50 คนไว้แก่วัดอัมพวันและเมื่อกาลเวลาผ่านไปท่านพระครุพรหมนครบวรราชมุนีฯ ได้ถึงแก่มรณภาพเมื่ออายุได้ 79 ปี เจ้าอาวาสผู้ปกครองวัดต่อมาได้แก่ ท่านพระครูปานในระหว่างปี พ.ศ. 2398 – 2412 จากนั้นต่อมาพระอธิการเทศจึงได้เป็นเจ้าอาวาสในสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทั้งนี้พระองค์ได้พระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ 1 ภาพ พร้อมโต๊ะหมู่บูชา 1 ชุด ถวายวัดอัมพวัน ท่านพระอธิการเทศได้ครองวัดระหว่างปี พ.ศ. 2428 -2442 ในช่วงเวลาต่อ ๆ มานั้นแสดงถึงว่าเจ้าอาวาสวัดอัมพวันที่ได้ปกครองวัดต่อ ๆ มา คือ พระใบฎีกาแย้ม ระหว่าง พ.ศ. 2443 – 2456 พระอธิการเลี่ยม ระหว่าง พ.ศ. 2456 – 2465 พระอธิการสัว ระหว่าง พ.ศ. 2466 – 2476 (เป็นเจ้าคณะตำบลด้วย) พระอธิการล้วน ระหว่าง พ.ศ. 2476 – 2480
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.jarun.org/80/index.html
แผนที่ |