ส่งต่อให้เพื่อน |
วัดพะโคะ จังหวัดสงขลา อำเภออำเภอสทิงพระ การตั้งใจมากราบสักการะร่างและอัฐิของท่านที่วัดช้างให้นั้นถือเป็นเรื่องที่น่าทำหากมีโอกาส |
||||||||||||||||||||||
นอกเหนือจากวัดช้างให้ที่จังหวัตปัตตานีอันเป็นสถานที่ฝั่งร่างและอัฐิของหลวงปู่ทวดแล้ว อีกวัดหนึ่งที่เป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวดก็คือ วัดพะโคะแห่งนี้ หลวงปู่ทวด หรือสมเด็จเจ้าพะโคะนั้นเกิดที่จังหวัดสงขลา ได้เริ่มต้นเส้นทางแห่งอริยสงฆ์ผู้ยิ่งใหญ่ บวชเรียน และจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ก่อนที่จะได้ไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดช้างให้ที่จังหวัดปัตตานี วัดพะโคะนี้ถือได้ว่า เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวผู้มีความศรัธราในองค์หลวงปู่ทวดได้แวะเวียนมากราบสักการะกันอยู่เสมอ ทั้งนักท่องเที่ยวที่มาจากมาเลเซีย สิงค์โปร์ รวมทั้งนักท่องเที่ยวคนไทยด้วย จากตำนานที่เป็นเรื่องบอกเล่าถึงอิทธิปาฎิหาริย์ต่างๆ จนได้เป็นที่มาของชื่อหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งที่นี่เองก็มีเรื่องเล่าทำนองเดียวกันแต่ไม่เหมือนกับเรื่องเล่าที่วัดช้างให้ว่า วันหนึ่งมีโจรสลัดแล่นเรือเลียบมาตามฝั่ง เห็นสมเด็จพะโคะเดินอยู่มีลักษณะแปลกกว่าคนทั้งหลายจึงใคร่จะลองดี โจรสลัดจอดเรือและจับสมเด็จพะโคะไป เมื่อเรือแล่นมาได้สักครู่เกิดเหตุเรือแล่นต่อไปไม่ได้ ต้องจอดอยู่หลายวัน จนในที่สุดน้ำจืดหมดลง โจรสลัดไม่มีน้ำดื่ม สมเด็จพะโคะสงสาร จึงเอาเท้าซ้ายแช่ลงไปในน้ำทะเลเกิดเป็นประกายโชติช่วง น้ำทะเลกลายเป็นน้ำจืด โจรสลัดเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงกราบขอขมา และนำสมเด็จพะโคะขึ้นฝั่ง ตั้งแต่นั้นมาประชาชนจึงพากันไปกราบไหว้บูชากันเป็นจำนวนมาก จุดประสงค์หลักของผู้คนส่วนมากที่มาวัดพะโคะนี้คงไม่ใช่อะไรอื่นนอกจาก การมากราบสักการะหลวงปูทวด และรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่ภายในมณฑปยอดเขา ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นรอยพระบาทของสมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ หรือหลวงพ่อทวดนั่นเอง อย่างที่บอกก็เพื่อความเป็นสิริมงคล และแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ซึ่งนั้นก็ทำให้วัดพะโคะเป็นหนึ่งในรายการที่ต้องไปของพวกเราเมื่อมีโอกาสมาเยื่อนสงขลา รายการนี้ขอไม่พลาดนะครับ งานด้านสถาปัตยกรรมที่เห็นเป็นสง่าในวัดนี้ก็คือ พระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นสถาปัตยกรรมภาคใต้แบบลังกาสมัยอยุธยา ซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เจดีย์สีขาวๆ ตัดกับสีสวยๆของท้องฟ้าวันนี้และแดดร้อนของวันนี้มันช่างเป็นความสวยงามที่ทรมานจริงๆ แค่เดินถ่ายรูปรอบๆเจดีย์นี้เหงื่อนี้ไหลเป็นน้ำเลยจริงๆ เลยต้องขอหลบแดดเข้าไปในวิหารใกล้กับเจดีย์เพื่อดู พระพุทธไสยาสน์ หรือ พระโคตมะ (พระโคะ) เป็นพระพุทธรูปปั้นสีทอง ปางปรินิพพานอายุอานามหลายร้อยปี ขนาดความยาว 18 เมตร สูง 2.5 เมตร ฝีมือช่างปั้นท้องถิ่น
บ้านแสนสุขคิดว่าสำหรับผู้ที่มีความศรัธราในบารมีของหลวงปู่ทวดแล้ว การตั้งใจมากราบสักการะร่างและอัฐิของท่านที่วัดช้างให้นั้นถือว่าเข้าข่ายเรื่องควรทำ "สักครั้ง" แต่หากการไปวัดช้างให้ที่ปัตตานีมันดูอันตรายเกินสำหรับใครบางคน บ้านแสนสุขแนะนำให้มาที่นี่วัดพะโคะนีแทนครับ รับรองไม่ผิดหวังครับ สำหรับบ้านแสนสุขแล้วพวกเรารู้สึกดีใจครับ ที่ได้มีโอกาสมาทั้งวัดช้างให้ และวัดพะโคะนี้ มันทำให้ทริปใต้ของพวกเราครั้งนี้ดูมีความหมายจริงๆ
|