ส่งต่อให้เพื่อน |
วัดฉลอง จังหวัดภูเก็ต อำเภอเมือง จ.ภูเก็ต ประวัติตอนหนึ่งของหลวงพ่อแช่มนั้นเล่าว่าในปี พ.ศ.2419 ซึ่งตรงกับสมัยของรัชกาลที่ 5 หลวงพ่อแช่มได้ช่วยเหลือชาวภูเก็ตต่อสู้กับพวกอั้งยี่ |
|||||||||||||||||||||||
วัดฉลอง เป็นชื่อที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกัน มีชื่อเรียกเป็นทางการว่าวัดไชยธาราม เป็นวัดคู่เมืองภูเก็ตที่มีชื่อเสียง หากได้มาเยื่อนภูเก็ตอย่าลืมแวะไปนมัสการหลวงพ่อแช่ม แห่งวัดฉลองเพื่อเป็นสิริมงคลแต่ตัวเองกันนะครับ เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ กิตติศัพท์ของบุญญาบารมี และเมตตาธรรมที่สูงส่งของหลวงพ่อแช่มนั้นมีผู้เลื่อมใสศรัทธามากมายจนถึงทุกวันนี้ "มาภูเก็ต ต้องมาไหว้หลวงพ่อแช่ม" ว่ากันอย่างนั้นเพราะเป็นที่รู้จักกันทั่วไปทั้งเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ และคุณงามความดีของหลวงพ่อแช่มแห่งวัดฉลอง อีกทั้งยังเป็นที่พึ่งให้กับชาวบ้านในครั้งการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ นอกจากหลวงพ่อแช่มแล้วยังมีหลวงพ่อช่วง และหลวงพ่อเกลื้อม ซึ่งเป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวบ้าน ซึ่งท่านทั้งสองมีชื่อเสียงการปรุงสมุนไพร และรักษาโรค ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ก็ยังมีชาวบ้านที่มีเรื่องทุกข์ร้อนใจ ก็มักจะไปกราบไหว้บนบานไม่ขาดสาย ปัจจุบันนี้ได้ประดิษฐานองค์ท่านทั้งสามที่วิหารที่สร้างอย่างสวยงาม ซึ่งในแต่ละวันจะมีผู้คนทั้งชาวไทย และต่างชาติ ต่างมา กราบไหว้เป็นจำนวนมาก ส่วนพระมหาเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ เป็นพระมหาเจดีย์ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อไม่นาน ซึ่งตั้งเด่นสง่าท้าทายสายตาผู้คนอยู่ทางด้านหลังของวัด เจดีย์นี้ดูงดงามและอลังการมาก ขนาดที่พวกเราถึงกับเปรยได้ไม่ขาดปากว่าสวยงามจริงๆ ภายในบริเวณชั้นแรกจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปรางค์ต่าง ๆ มากมาย ส่วนผนังด้านข้างผนังจะเป็นภาพวาดพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ตอนประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพาน มีสีสันสวยสดงดงามมาก เดินขึ้นบันไดวนไปเรื่อยถึงด้านบนสุดจะเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่นำมาจากประเทศศรีลังกา ณจุดนี้ส่วนด้านนอกของเจดีย์สามารถมองเห็นทิวทัศน์บริเวณรอบๆวัดได้อีกด้วย หลังจากที่เดินขึ้นไปบนยอดเจดีย์แล้ว พวกเราขอแวะล้างหน้าล้างตาซะก่อน...เพราะร้อนเหลือเกินขนาดฝนเพิ่งตกเสร็จ ต่อด้วยแดดแรงๆเลย งงเหมือนกันครับกับฝนภูเก็ต ได้เวลาหลบร้อนเข้าไปในกุฎิจำลองหลวงพ่อแช่ม ตัวกุฎิเป็นเรือนทรงไทยที่สวยงาม ภายในจะมีหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนของหลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อช่วง หลวงพ่อเกลี้อม และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของทั้งสามองค์ ภายในนั้นนั้นติดแอร์เย็นช่ำเลย เดินชมกันสบายตัวกันที่เดียวครับ ตรงนี้ก็กราบนมัสการกันได้ตามอัธยาศัยนะครับ ถัดจากบ้านเรือนไทยประมาณ 200 เมตร จะมีอุโบสถ์หลังเล็กภายในจะเป็นที่ประดิษฐ์สถานรูปปั้นของพระประธานและมีรูปปั้นอีก2ตัวขนาบข้าง คือ ท้าวนนทรี เป็นรูปปั้นยักษ์ยืนอยู่ทางเบื้องซ้าย ส่วนทางด้านขวามีรูปปั้นตาแก่นั่งสูบบุหรี่ เรียกว่า ตาขี้เหล็ก เล่ากันว่าตอนที่สร้างโบสถ์เสร็จ มีปูนเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง ช่างนึกสนุกจึงนำปูนมาปั้นเป็นรูปตาแก่ ประชาชนนิยมบนตาขี้เหล็กด้วยหมากพลูและบุหรี่มาจนทุกวันนี้ ในบริเวณวัดนี้จะคร่าคร่ำไปด้วยผู้คนทั้งไทย และเทศ โดยเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์นั้น เสียงประทัดที่คนมาจุดเพื่อบูชา หรือแก้บนนั้น ดังกันสนั่นหวั่นไวที่เดียว และมากันอย่างต่อเนื่องซะด้วยซิ บ้านแสนสุขเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าประทัดในวัดนั้นมาได้ยังไง ลึกๆแล้วอยากเห็นวัดสวยๆแบบนี้ ด้วยอารมณ์แบบเงียบๆน่าจะดี หากประทัดจะต้องมีอยู่ในวัด ใครสักคนย้ายที่จุดประทัดไปไกลๆหน่อยได้ม่ะ เส้นสายทางสถาปัตยกรรมของพระมหาเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ และสีสันของวัดหลวงพ่อแช่มนี้ช่างสวยงามจริงๆ ขนาดติดอันดับความนิยมให้คู่หนุ่มสาวมาถ่ายรูปคู่ชุดแต่งงานกันที่นี่มากมาย ไม่เพียงแต่คู่รักไทยนะครับ ข้ามน้ำข้ามทะเลซื้อแพคเก็จจากเมืองนอกมาก็มี ทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และฝรั่งตาน้ำข้าวก็มีให้เห็นกัน ดูแล้วก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขดีจริงๆ พวกเราเห็นแล้วก็ได้แต่ซุบซิบนินทากันไปด้วยความสนุกสนานปนความอิจฉาแหล่ะครับ
การเดินทาง วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 8 กิโลเมตร ไปตามทางหลวง หมายเลข 4021 ผ่านสามแยกบริเวณสนามกีฬาสุรกุล เลี้ยวซ้ายไปทางห้าแยกฉลอง วัดฉลองจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงห้าแยกฉลองประมาณ 4 กิโลเมตร หรือโดยรถสองแถวจากตลาดดาวน์ทาวน์ในตัวเมืองภูเก็ตสาย ภูเก็ต - อ่าวฉลอง ค่าโดยสาร 20 บาท(พ.ศ.2556) พิกัดดาวเทียม 7.846401,98.33784 แผนที่ < |