ส่งต่อให้เพื่อน |
หมู่บ้านทำมีด บ้านต้นโพธิ์ บ้านไผ่หนอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอนครหลวง จากภมิปัญญาชาวบ้านทีสืบทอดการตีเหล็กทำมีดกันมาร้อยกว่าปี กลายมาเป็นสินค้าโอท๊อปของดีจากอำเภอนครหลวง |
|||||||||||||||||||||||||||
"มีดอรัญญิก" เราคงเคยได้ยินคำนี้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง คำว่ามีดอรัญญิกนั้นเป็นคำที่เรียกกันมาตั้งแต่สมัยก่อนนานมาแล้ว จากตลาดร้านค้า หรือโรงบ่อนในหมู่บ้านอรัญญิก ตำบลปากท่า อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเหมือนกับตลาดทั่วไปที่มีผู้คนนำสินค้ามาซื้อขายเเลกเปลี่ยนกัน "มีด" ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันที่หมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งได้มีการบอกต่อๆกันไปว่ามีดจากตลาดอรัญญิก แล้วก็เลยได้เรียกติดปากกันว่ามีดอรัญญิก แต่ที่จริงเเล้วมีดที่ว่านั้นทำที่หมู่บ้านต้นโพธิ์ หมู่บ้านไผ่หนองเเละหมู่บ้านอื่นๆ หาได้ทำที่บ้านอรัญญิกเลย และนั้นก็เป็นที่มาคร่าวๆของคำว่า “มีดอรัญญิก” นั้นเอง ในปัจจุบันหมู่บ้านที่ทำมีดกันจริงจังเป็นล่ำเป็นสันนั้นมีอยู่สามหมู่บ้านคือ บ้านสาไร บ้านต้นโพธิ์ และบ้านไผ่หนอง บ้านสาไรจะเป็นหมู่บ้านที่รับทำมีดส่ง หรือเป็นบ้านที่รับผลิต และไม่มีหน้าร้าน ส่วนที่บ้านต้นโพธิ์ และบ้านไผ่หนองนั้น ถือว่าเป็นหมู่บ้านดังเดิมที่ทำมีดกันมาตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งสองหมู่บ้านนี้จะมีทั้งทำมีดเองด้วย และหน้าร้านให้ได้เลือกซื้อเลือกหากัน จากคำบอกเล่า และประวัติว่ากันว่า ชาวบ้านต้นโพธิ์ และชาวบ้านไผ่หนอง มีรกรากมาจากชาวลาวเวียงจันทร์ที่ได้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยประมาณช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ หรือในสมัยรัชกาลที่ 2 ชาวเวียงจันทน์กลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีอาชีพมีช่างทำทองกับช่างตีเหล็ก คือคนที่เเข็งเเรงก็ได้ตีเหล็ก คนไหนอ่อนแอมีความละเอียดให้ตีทองคำทำเครื่องประดับ ซึ่งในสมัยนั้นอาชีพทั้งสองนี้ได้ทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันตลอดมาจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2365 อาชีพช่างทองก็ได้ค่อยๆหายไป คงเหลือเเต่อาชีพตีเหล็กทำมีดอย่างเดียว และชาวบ้านก็ยึดอาชีพตีเหล็กทำมีดสืบต่อกันจนถึงทุกวันนี้ ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์อรัญญิก ผลิตภัณฑ์มีดอรัญญิกในปัจจุบัน มีอยู่ด้วยกัน 4 ตระกูล ได้แก่มีดตระกูลเกษตรกรรม มีดตระกูลคหกรรม มีดตระกูลอาวุธ และมีดตระกูลอื่นๆ ซึ่งแต่ละตระกูลก็สามารถจำแนกตามการใช้งานได้อีกตั้ง 12 ประเภท ซึ่งในแต่ละประเภทก็ยังแยกย่อยไปด้วยชนิดของมีดต่างๆอีกมากมายตามขนาด ความต่างของวัสดุที่ใช้ และชิ้นส่วนองค์ประกอบต่างๆ ซึ่งจากการศึกษามีดทั้งหมดนั้นมีเกือบ 300 ชนิดโน้นแน่ะ อ่านกันเพลินๆนะครับ เล่าเพื่อทราบว่ามันเยอะจริง เอาแค่มีดใช้ในครัวก็มีทั้งเล็กทั้งใหญ่ สารพัดหน้าตารูปแบบ มีดหั่น มีดสับ มีดแล่ จนไปถึงมีดปังตอ และแต่ละแบบก็ยังมีขนาดเล็กขนาดใหญ่ รวมถึงประเภทของวัสดุที่แตกต่างกันอีกด้วย....มาดูเหอะแล้วจะรู้ว่าเยอะจนเลือกไม่ถูกจริงๆ ถ้าใครสนใจจะมาเที่ยวที่หมู่บ้านทำมีด และต้องดูการตีเหล็กทำมีดกันที่สองหมู่บ้านที่ว่านี้นั้น ต้องบอกแบบนี้ว่า การตีเหล็กทำมีดโดยปรกตินั้นเค้าจะตีเหล็กกันตั้งแต่เช้ามืดโน้น เข้าใจว่าน่าจะเป็นเรื่องของความร้อนแหล่ะครับ เช้าๆอากาศท่าจะยังไม่ร้อนมากมายนัก ใครไปถึงตั้งแต่เช้ามืดเห็นบ้านไหนมีไฟแดงๆ มีเสียงเคาะตีเหล็กกันเดินเข้าไปแจ้งความจำนงค์ได้เลยว่า" อยากดู" แต่ถ้าเช้ามืดมันไม่สะดวกลองแบบนี้ดูครับ ที่ทั้งสองหมู่บ้านนี้นั้นมีการตีมีดโชว์อยู่แล้ว เริ่มจากที่บ้านต้นโพธิ์นั้นสามารถติดต่อได้ที่ร้าน ส.อรัญญิก จะมีลุงบุญสมตีให้ดูเป็นเวอร์ชั่นสาธิต แต่ถ้าต้องการดูแบบเต็มๆ อาจจะมีค่าใช้จ่ายให้กับช่างบ้าง ส่วนที่หมู่บ้านไผ่หนองนั้นให้ติดต่อที่ ร้านมีด วิชัย ที่นี่จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500 บาท ซึ่งรายการนี้จะเหมาะกับการไปเป็นหมู่คณะเพราะที่นี้สามารถรองรับคนได้เป็นร้อยครับ ส่วนเวลาก็สามารถเลือกได้ตามแต่จะตกลงกัน เช้าสายบ่ายเย็นก็ว่ากันไป สำหรับทริปนี้ของบ้านแสนสุขเองไปดูการสาธิตการตีมีดในช่วงบ่ายสองโมง ของเดือนพฤษภาคม ขนาดว่าไม่ได้ยืนใกล้เตาเท่าคนตีมีดนะครับ ยังสัมผัสได้ถึงความร้อนชนิดที่ว่าเหงือนั้นหยดติ้ง หยดติ้งเลยที่เดียว แต่นั้นก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจทีเดียว แหม...เกือบลืมไปว่าที่บ้านต้นโพธิ์นั้นมีพิพิธภัณท์หัตถกรรมอรัญญิกด้วย พิพิธภัณท์นี้จะมีการบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน ขั้นตอนการทำมีด และข้าวของเครื่องใช้ในการทำมีดแบบดังเดิมแสดงไว้ให้ชมกัน หากใครไปแล้วเห็นพิพิธภัณท์นี้ปิด(ปรกติปิดวันอังคาร)ก็ให้ไปติดต่อที่ร้านมีดแถวๆนั้นได้ เดี๋ยวเค้าก็จะมาเปิดให้เข้าชมได้ ไม่เสียค่าเข้าชมนะครับ แต่มีกล่องรับบริจาคเป็นค่าน้ำค่าไฟแทน ก็ถือว่าช่วยกันพอเหมาะพอควรได้นะครับ นอกเหนือจากเครื่องเหล็กอรัญญิกทั้ง 4 ประเภทที่ถือว่าเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมานานแล้ว ส่วนหนึ่งของชาวบ้านต้นโพธิ์ และไผ่หนอง ได้ประยุกต์ต่อยอดงานฝีมือมาทำพวกเครื่องใช้สแตนเลสด้วยนะครับทั้งช้อน จาน ถาด ของใช้บนโต๊ะอาหาร เชิงเทียน ถังแช่ไวน์ หรือแม้กระทั้งของตั้งโชว์ต่างๆ ทำออกมาได้สวยงามจริงๆ
เรื่องการไปเที่ยวดูการตีเหล็กทำมีดนั้นดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องไม่น่าสนใจ ดูไม่สนุกเหมือนกิจกรรมอื่นไ แต่ถ้ามองให้ดีดูจากประวัติศาสตร์แล้วจะพบว่าทั้งพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 จนถึงสมัยรัชกาลปัจจุบันก็ต่างได้เสด็จมาทอดพระเนตรการตีเหล็กทำมีดของชาวบ้านแห่งนี้กันมากมายหลายพระองค์ นี้ยังไม่ได้เอ่ยถึงรัฐมนตรีโน้น รัฐมนตรีนั้น หรือแม้กระทั่งนายกฯก็มาไม่รู้กี่คนแล้ว ซึงถ้าเปรียบเทียบกับอาชีพอื่นแล้วนั้น อาชีพตีเหล็กทำมีดนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ แม้แต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินยังเสด็จมาทอดพระเนตรเลย ถึงณตอนที่นั่งพิมพ์เรื่องนี้อยู่ ยังคิดว่าจะหาโอกาสกลับไปอีกสักรอบ สัมผัสใกล้ชิดกว่าที่ผ่านมาอีกสักหน่อยเพื่อจะหายสงสัยว่าทำไม? การเดินทาง ใช้ทางสายเอเชีย(ทางหลวงเเผ่นดินหมายเลข 32) ไม่เข้าตัวเมืองอยูธยา เลยโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชฯไปประมาณ100เมตร ให้เลี้ยวขวาลอดใต้สะพานเพื่อไปยังอำเภอนครหลวง หรือทางหลวงหมายเลข 3063 วิ่งตรงไปอีก 9 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายที่ป้อมตำรวจสามไถ ตรงไปอีก100 เมตร เลี้ยวซ้ายและขับตามทางไปเรือยๆจะเข้าสู่บ้านไผ่หนองและบ้านต้นโพธิ์ตามลำดับ(สองหมู่บ้านนี้ติดกัน) พิกัดดาวเทียม N14.502434, E100.651438
|