ส่งต่อให้เพื่อน |
แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต อำเภอเมือง จ.ภูเก็ต ภาพท้องฟ้ายามเย็น และพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าที่แหลมพรหมเทพนั้นสวยงามเกินบรรยาย |
|||||||||||||||||||
หากมีโอกาสได้มาเยือนภูเก็ตแล้วไม่ได้มาดูอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าที่แหลมพรหมเทพ ถือได้ว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง ไหนๆก็มาถึงถิ่นแล้ว เดียวจะว่าไม่ครบสูตรตามแบบฉบับของการมาเที่ยวเมืองภูเก็ต แหลมพรหมเทพนั้นจัดเป็นหนึ่งในจุดชมวิว ดูพระอาทิตย์ยามอัสดงที่สวยที่สุดทีหนึงของโลกก็ว่าได้ บรรยากาศยามเย็นๆ ขอบฟ้ากว้างๆ เสียงลม เสียงคลื่นคละเคล้ากันเป็นท่วงทำนองสบายทุกโสตที่ธรรมชาติมอบให้ หากใครยังไม่เคยไป....ตัดสินใจเลยดีกว่าว่าจะไปกับใคร?? “แหลมพรหมเทพ” ซึ่งเป็นแหลมที่มีหน้าผาสูงอยู่ทางใต้สุดของเกาะภูเก็ต เดิมทีชาวบ้านเรียกแหลมนี้ว่า “แหลมเจ้า” ซึ่งมีทัศนียภาพอันสวยงามและเต็มไปด้วยเสน่ห์ กับภาพปลายผืนแผ่นดินชิ้นเล็กๆไล่ระดับทอดตัวลงยื่นเข้าไปในทะเลเป็นปลายแหลม ต้นหญ้ากอเล็กกอน้อย และต้นตาล ถูกรายล้อมไปด้วยท้องน้ำอันกว้างใหญ่ถือเป็นภาพแห่งความประทับใจเรียกนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศมากมาย ด้วยบรรยากาศและภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ไม่ทำให้บ้านแสนสุขแปลกใจเลยว่าทำไมแหลมพรหมเทพถึงได้ถูกจัดให้เป็นจุดชมวิวเบอร์ 1 ของภูเก็ต.. หากใครจะเดินไปชมวิวที่ปลาย แหลมก็ต้องเดินลงไปอีกประมาณ 1 ก.ม. ซึ่งระยะทางการเดินก็ค่อนข้างชัน ต้องเดินลงไปด้วยความระมัดระวังอย่างสูงนะครับ เพราะที่แหลมพรหมเทพนี้มีนักท่องเที่ยวเกิดอุบัติเหตุตกเขาอยู่เรื่อยๆนะครับ เอาเป็นว่าตรงนี้บ้านแสนสุขไม่แนะนำให้เดินลงไปดีกว่านะครับ โดยเฉพาะเด็กหรือผู้หญิง แค่ตรงบริเวณจุดชมวิวนั้นรับรองได้ว่า เพียงพอแล้วหล่ะครับ ในช่วงเย็นของทุกวัน ที่แหลมพรหมเทพนี้จะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมาดูพระอาทิตย์ตกดินกัน เยอะมากในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหลักของปี และนอกจากที่นี่จะมีภาพบรรยากาศท้องฟ้ายามเย็นที่สุดสวย กับพระอาทิตย์กลมโตที่กำลังจะตกทะเลแล้ว มาแหลมพรหมเทพอย่าลืมแวะสักการะขอพร "เสด็จเตี่ย" กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ด้วยนะครับ อนุสาวรีย์ของท่านนั้นอยู่บนลานจุดชมวิวทางด้านซ้ายมือนั้นแหล่ะครับ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เป็นที่เคารพยกย่องของคนไทยเนื่องจากท่านมีพระเกียรติคุณต่อกองทัพเรือไทยมากมาย อีกทั้งหลากหลายความเชื่อที่บอกต่อกันมาในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่ทำให้คนมาขอพรเพื่อความสำเร็จ หรือ บนบาลให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อยู่เป็นระยะๆ ใครตั้งใจแบบไหนจะกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล หรือบนบาลอะไรนั้นก็ตามแต่ศรัธราตั้งใจนะครับ นอกจากนั้นยังมี “ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ” ที่สร้างขึ้นถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในปีกาญจนาภิเษก พ.ศ. 2539 เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายในการเดินเรือ เนื่องจากภูเก็ตเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมทางทะเลที่สำคัญของท้องทะเลอันดามัน ประภาคารแห่งนี้สูง 50 ฟุต ตรงกับวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 50 ปีภายในอาคารด้านล่างจัดเป็นนิทรรศการให้ความรู้เรื่องกระโจมไฟและประภาคาร แสดงแบบจำลองของประภาคารและกระโจมไฟที่สำคัญ เช่น กระโจมไฟชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ประภาคารอัษฎางค์ ประภาคารตากใบ ฯลฯ มีป้ายบรรยายประวัติความเป็นมาของประภาคารและกระโจมไฟ นอกจากนิทรรศการชั้นล่างแล้ว มีบันไดเวียนขึ้นไปชั้นบนของประภาคาร ซึ่งจัดแสดงเรือหลวงจำลอง พร้อมประวัติของเรือแต่ละลำ เช่น เรือหลวงศุกร์ เรือหลวงสุริยะ และเรือหลวงจันทรอีกด้วย ในวันที่อากาศดี ท้องฟ้าเปิด เมฆน้อย ภาพพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่แหลมพรหมเทพนั้นสวยงามเกินบรรยาย มีทุ่งหญ้าสีเขียวขึ้นปกคลุม มองเห็นเกาะแก้วน้อย เกาะแก้วใหญ่ และเกามัน บวกกับคลื่นลมที่โถมซัดโขดหินน้อยใหญ่จนเกิดเสียงซูซ่าและเฟองสีขาวดูให้เพลิดเพลินนัก ภาพทั้งหมดนี้ในยามเย็นปรกติของแหลมพรหมเทพ ภาพนักท่องเที่ยวที่มีสถานภาพเป็นคู่รักนี้คือช่วงเวลาที่"โรแมนติค"ช่วงหนึ่งที่ธรรมชาติจัดให้ครับ ส่วนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆดูเหมือนว่าณ.ช่วงเวลานี้มัวแต่สารวนกับการชักภาพเก็บเป็นที่ระลึกกัน เป็นภาพที่มีแต่รอยยิ้มครับ ส่วนภาพสุดท้ายคงไม่ใช่ภาพอะไรนอกจากภาพสายตาทุกคู่ที่จับจ้องไปที่ดวงอาทิตย์กลมโตค่อยๆ ทอดตัวแตะขอบน้ำแล้วก็ตามด้วยเสียงปรบมือ และเสียงกรี๊ดร้องของทั้งเด็กและผู้ใหญ่เคล้ากันระงม ชื่นชมที่ส่งพระอาทิตย์ลงลับเส้นของฟ้าพร้อมๆกัน การเดินทาง |