ส่งต่อให้เพื่อน |
เขาเก้าเส้ง จังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จ.สงขลา เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ เหยียบอุจาระชาวบ้านในขณะที่เดินกินลมชมวิวสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่ริมทะเล |
||||||||||||||||||||
เรื่องราวของ "เก้าเส้ง" ของบ้านแสนสุขนี้เริ่มต้นจากร้านน้ำชาเล็กๆ ริมหาดในระแวกชุมชนเก้าเส้ง จากคำบอกเล่า ในวงเสวนาของคนเก่าแก่ในชุมชนว่าเดิมที่ชุมชนเก้าเส้งนั้นอาศัยอยู่บริเวณแหลมสน แต่ต้องย้ายออกมาเพราะวันหนึ่ง จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ ได้เหยียบอุจาระชาวบ้านในขณะที่ท่านกำลังเดินเล่นกินลมชมวิวอยู่อยู่ริมทะเล เป็นเหตุให้ชาวบ้านต้องย้ายออกจากพื้นที่บริเวณแหลมสน ทางการก็จัดหาที่อยู่ให้จนกลายเป็นชุมชนเก้าเส้งในปัจจุบันนั่นเอง เรื่องเหยียบอุจจระนั้นก็ส่วนหนึ่งแหล่ะครับ แต่อีกส่วนก็คือทางการต้องการที่จะจัดระเบียบและพัฒนาชายหาดแหลมสมิหลาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นที่พักร้อนผ่อนใจของทุกคนนั้นแหล่ะครับ สิ่งแรกๆที่ออกจากปากคนในพื้นที่เมื่อรู้ว่าเราจะไป "เก้าเส้ง" ก็คือ "หัวนายแรง" ใครที่เคยได้ยินคำนี้ครั้งแรกๆก็คงจะงงว่ามันคืออะไร หัวนายแรง หัวใคร? นายแรงคือใคร? หินหัวนายแรงนั้น มีประวัติและความเป็นมาเป็นเรื่องเล่าเก่าแก่ที่เดียว หินหัวนายแรงคือก้อนหินขนาดใหญ่สูงท่วมหัว ส่วนที่กว้างที่สุดน่าจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 เมตรหรือมากกว่าได้มั้ง ตั้งอยู่บนก้อนหินก้อนที่ใหญ่กว่าแบบปริ่มๆ เหมือนจะตก ซึ่งชาวบ้านก็บอกว่า "หินนั้นเหมือนจะตกแต่ก็ไม่ตก ถ้าขึ้นไปก็ลองไปผลักดูซิ" เมื่อขึ้นไปก็พบว่าเป็นหินก้อนใหญ่มีศาลเล็กๆ กับรูปปั้นนางเงือกน้อยๆ อยู่ข้างๆ ที่ก้อนหินมีเชือกสีๆพันอยู่รอบ มีคนขึ้นไปกราบไหว้แหล่ะครับ เมื่อสำรวจดูรอบๆก็พบว่า ด้านล่างของหินที่สัมผัสกับหินที่ตั้งอยู่นั้นดูเล็กกว่าขนาดของก้อนหินจริงๆ แต่เราคิดว่าลำพังแรงคนคงผลักไม่ตกหรอกเพราะหินก้อนนี้น่าจะหนักหลายตันอยู่ แต่หลายๆคนผลักก็ไม่แน่เหมือนกัน(คิดว่าคงไม่มีใครอุตริ หรือซนขนาดนั้นแน่) ทางขึ้นไปหาหินหัวนายแรงนั้นขึ้นได้สองทาง คือขึ้นทางซอยศูนย์พัฒนาวิจัยพันธุ์สัตว์น้ำ แล้วขับรถหรือเดินไปตามทางได้เลย ทางนี้จะไกลหน่อย หรือ จะเดินเลาะชายหาดผ่านชุมชนที่อยูริมหาดแล้วปีนก้อนหินขึ้นไป ทางนี้อาจจะหวาดเสียวเล็กน้อยเพราะหินบางก้อนถ้าเปียกมันลื่น และทางแคบดูวังเวงบรรยากาศมาคุพอสมควร อีกทั้งสายตาของคนในชุมชนอาจมองคุณแบบแปลกๆ แต่นั้นคงไม่ใช่ปัญหา ลองเดินไปพลางส่งภาษายิ้มน้อยๆพองาม จะรู้สึกลดความแปลกที่ว่าได้พอสมควรเลย ชาวเก้าเส้งแต่ดั้งแต่เดิมมีอาชีพทำการประมง ออกเรือจับปลามาขาย ซึ่งชุมชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมหาดนั้นส่วนมากก็ยังออกเรือหาปลากันอยู่ เป็นเรือหาปลาเล็กๆนะครับ แต่ต่อมาเมื่อมีผู้คนมาอาศัยอยู่มากขึ้น จึงเกิดอาชีพที่หลากหลายอย่างที่เห็นในปัจจุบัน กุ้งหอยปูปลาสดๆก็หาซื้อได้แถวๆนี้ครับ ร้านอาหารการกินก็มีมากพอสมควร ทั้งข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว หรือ อาหารตามสั่ง ร้านค้าพวกนี้ส่วนมากเป็นไทยมุสลิมนะครับ รสชาติอาหารเท่าที่ได้อาศัยได้ฝากท้องแถวนั้นอยู่สองวัน ก็พบว่ารสชาติอาหารที่ผ่านมือพ่อครัวหรือแม่ครัวไทยมุสลิมนั้นรสชาติใช้ได้ แต่ไม่ค่อยจัดจ้านเ คือไม่เผ็ดเท่าที่อาหารปักษ์ใต้ควรจะเป็น ส่วนสนนราคาและปริมาณนั้น บอกได้เลยว่ากินอิ่มราคาเยาว์ เก้าเส้งในสายตาบ้านแสนสุขดอทคอมนั้น คิดว่าการได้มาเดินถ่ายรูปวิถีชิวิตของคนหาปลา นอนเล่นสักคืนสองคืน หาอาหารทะเลกิน ได้พูดคุยกับคนที่เราไม่คุ้นเคย คนที่แตกต่างจากเราในหลายๆด้านบ้าง มันทำให้พวกเราได้เรียนรู้อะไรได้มากมายจริงๆ เศษเสี้ยวของบนสนทนาจากปากคนเฒ่าคนแก่ไทยมุสลิมเรื่องพระสงฆ์นอกรีตที่ทำให้พวกเราถึงกับอึ้งจริงๆ อึ้งกับมุมมองและแนวคิดของคนที่มีศาสดาไม่เหมือนกัน ไม่ต้องลุ้น..ขออนุญาติไม่เล่าแล้วกัน เพราะศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆ ความเห็นต่างไม่ได้ทำให้พวกเรารู้สึกโกรธแต่อย่างใด แต่กลับกันความแตกต่างของผู้คนที่นี่สร้างความประทับใจให้พวกเราได้พอสมควรจริงๆ และน่าเสียดายเหลือเกินว่าทั้งเวลาและงบประมาณเป็นของหายากสำหรับพวกเรา หากมีตังค์กับวันหยุดเยอะๆเมื่อไหร่...พวกเราแค่คิดคล้ายๆกันว่าอยากกลับไป "เก้าเส็ง" อีกสักครั้งจัง
การเดินทาง จากหาดใหญ่ไปสงขลา เมื่อผ่านสถาบันราชภัฏสงขลาและสามแยกสำโรงมาแล้ว ก็ให้เลี้ยวขวาที่แยกไฟแดงถัดไป คือแยกโรงพยาบาลประสาท ซึ่งเป็นทางไปถนนชลาทัศน์หรือถนนเลียบชายทะเล วิ่งตรงไปจะเจอปั๊ม ปตท ซ้ายมือ ให้มองป้ายทางขวามือ "สถาบันเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งแห่งชาติสงขลา" ให้เลี้ยวเข้าซอยนั้น ทางขึ้นไปเขาเก้าเส้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ พิกัดดาวเทียม N7.182039, E100.622138 แผนที่
|