ส่งต่อให้เพื่อน |
สวนสัตว์เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ สวนสัตว์ประจำเมืองเขียงใหม่ที่คนทั่วประเทศรู้จักกันดี โดยฉพาะที่นี้เป็นที่อยู่ของหมีแพนด้าชื่อดัง หลินฮุ๊ย,ช่วงๆและหลินปิง |
|||||||||||||||||||||||
ก่อนขึ้นดอยสุเทพมีสถานที่ท่องเที่ยงอยู่หลายแห่งตั้งแต่เชิงดอยเป็นต้นไป เช่นน้ำตกห้วยแก้ว,พระธาตุดอยสุเทพ.ดอยปุยฯและที่บ้านแสนสุขจะพานักท่องเที่ยวไปรู้จักสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงโดงดังมากเช่นกันในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่ ก่อตั้งขึ้นโดยนายฮาโรลด์ เมสัน ยัง (Mr.Harold Mason Young) มิชชั่นนารีชาวอเมริกัน ผู้เข้ามาเป็นอาสาสมัครสอนการยังชีพในป่าให้แก่พวกทหารและตำรวจชายแดน ในช่วงสงครามเกาหลี (พ.ศ. 2493 - 2496) โดยอาศัยพื้นที่บ้านที่ตนเช่าอยู่คือ บ้านเวฬุวัน เชิงดอยสุเทพ ซึ่งเป็นของนาย กี นิมมานเหมินท์ (พ.ศ. 2431 - 2508) และนางกิมฮ้อ นิมมานเหมินท์ (พ.ศ. 2437 - 2524) เป็นสถานที่เริ่มต้นโดยเริ่มเปิดเป็นสวนสัตว์เล็กๆของเอกชนขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณ พ.ศ. 2495 โดยจ้างคนพื้นเมืองและชาวเขาจำนวนไม่มากนักช่วยดูแล การสะสมสัตว์นานาชนิดของนาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง ภายในบริเวณบ้านเวฬุวันที่ตนเช่าอยู่นั้นคงมีมากขึ้นๆและคงสร้างต้องอาศัยพื้นที่ในบริเวณบ้านเวฬุวันมากขึ้นคงทำให้พื้นที่อันสวยงามของบ้านเวฬุวัน เช่น สนามหญ้าหน้าบ้านถูกใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ไปโดยปริยาย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2520 สวนสัตว์จึงโอนเข้าสังกัดองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2520 เป็นต้นมา เนื่องนับถึงวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2530 สวนสัตว์เชียงใหม่ได้มีอายุครบ 10 ปีเต็ม ในรอบทศวรรษนั้น สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ขยายพื้นที่จากเดิมที่จังหวัดเชียงใหม่อนุมัติให้นายฮาโรลด์ จัดตั้งสวนสัตว์ประมาณ 60 ไร่ ได้รับการขยายเป็น 130 ไร่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 สวนสัตว์เชียงใหม่ก็ได้รับความเห็นชอบจากกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะรัฐมนตรีให้ขยายพื้นที่บริเวณเชิงดอยสุเทพ เพิ่มเติมอีกประมาณ 500 ไร่ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาสวนสัตว์ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน จำนวนหนึ่งโดยมี ศาสตราจารย์ อัน นิมมานเหมินท์ เป็นประธานดำเนินงานวางผังหลักกำหนดแนวทางพัฒนาสวนสัตว์ชียงใหม่ หลังจากที่ได้รู้จักประวัติสวนสัตว์เชียงใหม่กันพอสมควรแล้ว บ้านแสนสุขจะพานักท่องเที่ยวไปรู้จักกับสัตว์ต่างกันที่รอให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันตามมาเลย.. เมื่อเราซี้อตั๋วผ่านระตูเข้าสวนสัตว์มาแล้ว สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องรู้คือสวนสัตวืเชียงใหม่มีพื้นที่กว้างมาก 800 ไร่ ฉนั้นการเที่ยชมสนสัตว์มีสี่รูปแบบคือ อันดับเเรก ขับรถเที่ยวชมในบริเวณสวนสัตว์ นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถตามจุต่างๆโดยดูจากแผนที่สวนสัตว์ที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอยู่เสมอคือถนนในสวนสัตว์เป็นเชิงเขาและแคบต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก อันดับต่อมา ขึ้นรถนำเที่ยวที่ทางสวนสัตว์จัดเตรียมไว้คอยบริการซึ่งจะมีตามจุดต่างๆ อันดับสาม รถไฟลอยฟ้า จะเสียค่าบริการ 70 บาทต่อ 1 เที่ยว สุดท้ายเดิน ใช้เวลาทั้งวัน สวนสัตว์เชียงใหม่เป็นสวนสัตว์ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติและสัตว์โดยส่วนมากก็ไม่กลัวนักท่องเที่ยว แต่ถ้าบริเวณไหนที่เจ้าหน้าที่เตือนเราก็ต้องให้ความร่วมมือ แล้วก็มาถึงดาวเด่นของสวนสัตว์หมีแพนด้า ช่วงๆ,หลินฮุ๊ยและหลินปิง หลังจากที่ประเทศไทยได้รับช่วงช่วงและหลินฮุ่ยในฐานะทูตสันถวไมตรีระหว่างไทยและจีน มาอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2546 องค์กรได้ทำการดูและคู่หมีแพนด้าให้มีคุณภาพที่ดีเป็นเวลา 3 ปี ทางสวนสัตว์ฯ เริ่มพยายามให้คู่แพนด้าได้มีโอกาศผสมพันธุ์เองตามธรรมชาติด้วยการทำให้สิ่งแวดล้อมภายในบริเวณที่เลี้ยงมีบรรยากาศเหมือนธรรมชาติ บริเวณด้านหลังสามารถแยกหมีให้อยู่ตัวเดียวหรือเป็นคู่ได้ ส่วนด้านจัดแสดงด้านหน้า แบ่งพื้นที่ให้ทั้สองคิดถึงกันมากที่สุด หลินฮุ่นแสดงอาการเป็นสัดครั้งแรกราววันที่ 16-19 มกราคม พ.ศ. 2549 โดยส่งเสียงร้องคล้ายเสียงแพะเดินวนกระสับกระส่ายป้ายกลิ่นตามที่ต่างๆยกหางและเดินถอยหลังเข้าหาช่วงช่วงแต่ช่วงช่วงแสดงพฤติกรรมคล้ายการขึ้นผสมพันธุ์เท่านั้น แต่ก็ล้มเหลวต้องรอลุ้นปีถัดไปต่อมาปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2550 หลินฮุ่ยแสดงอาการเป็นสัดครั้งที่ 2 ทางทีมงานหากลยุทธ์หลากหลาย เช่นให้ช่วงช่วงดูวิดีโอโป๊เพื่อกระตุ้นพฤติกรรมสืบพันธุ์ตามคำแนะนำของประเทศจีนและอื่นๆหรือการกั้นคอกแยกเพื่อเลียนแบบพฤติกรรมทางธรรมชาติที่มักแยกกันอยู่ตามลำพังและเปิดให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันเฉพาะช่วงที่หลินฮุ่ยเป็นสัดแต่ผลก็ไม่เป็นที่น่าพอใจ เดือนเมษายน พ.ศ. 2550 มีการรวมตัวคณะทำงานเฉพาะกิจที่มีทีมงานจากหลายฝ่ายทั้งทีมงานของสวนสัตว์เชียงใหม่ ทีมจากส่วนวิชาการองค์การสวนสัตว์ทีมงานวิจัยของโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้า ทีมงานคณะสัตว์แพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมและนำมาทำงานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ต่อมาวันที่ 1 เมษายน หลินฮุ่ยตกไข่ ทีมงานปล่อยให้ช่วงช่วงเข้าผสมกับหลินฮุ่ยแต่ไม่สำเร็จจึงดำเนินการผสมเทียมในวันถัดมา ช่วงช่วงถูกวางสลบในไม่กี่ชั่วโมงการผสมเทียมครั้งแรกนี้มีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีนมาช่วยเหลือทีมงานแต่น่าเสียดายว่าหลินฮุ่ยเกิดภาวะตั้งท้องเทียม เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 หลังจากนั้นเริ่มเข้าฤดูผสมพันธุ์ของหลินฮุ่ยอีกครั้ง ทั้งสิ่งเปลี่ยนแปลงเรื่องระดับฮอร์โมนและพฤติกรรมทางทีมงานร่วม 30 ชีวิตวางแผนการทำงานแบบละเอียดทั้งแผนปฏิบัติการรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน ตั้งแต่ผสมพันธุ์จนถึงคลอดหลังจากพิจารณาระดับฮอร์โมนที่ขึ้นถึงสูงสุดและเริ่มลดระดับลงอย่าฮวบฮาบเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าหลินฮุ่นมีไข่ตกจากรังไข่แน่นอน ทางทีมงานเริ่มวางยาสลบช่วงช่วงได้น้ำเชื้อคุณภาพเยี่ยมมากพอเพียงสำหรับการผสมเทียมถึง 2 ครั้งจากนั้นสู่กระบวนการพาตัวอสุจิของช่วงช่วงไปเจอกับไข่ของหลินฮุ่ยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 จากนั้นเริ่มสังเกตพฤติกรรมการตรวจฮอร์โมนจากฉี่ทุกวัน หากตั้งท้องฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่รังไข่จะผลิตออกมาสองเดือนหลังวันผสมเทียมพบว่าพฤติกรรมหลินฮุ่ยเปลี่ยนไปกินอาหารมากขึ้นท้องและเต้านมขยายใหญ่นอนเก่งกว่าเดิมรวมทั้งผลตรวจฮอร์โมนเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 หลังจากเจ้าหน้าที่สังเกตพบพฤติกรรมผิดปรกติของหลินฮุ่ยที่แสดงอาการกระวนกระวายเดินไปมาเลียบริเวณอวัยวะเพศถี่มากขึ้นหลังเที่ยงคืนวันที่ 26 จึงติดต่อไปที่ศูนย์วิจัยแพนด้า ประเทศจีน ปรึกษาจากผู้รู้จึงได้รับคำตอบว่าหลินฮุ่ยกำลังจะคลอดคำยืนยันทำให้ทีมงานตื่นเต้นและกระวนกระวายอย่างมากแพนด้าน้อยคลอดออกมา โดยถูกบันทึกภาพด้วยกล้องวิดีโอของทีมงานสวนสัตว์ฯหลังจากอุ้มท้อง 97 วัน มีน้ำหนักแรกเกิด 235 กรัม บ้านแสนสุขได้พานักท่องเที่ยวมารู้จักสวนสัตว์เชียงใหม่กันพอสมควรแล้ว หากมีโอกาศครั้งใดก่อนขึ้นไปเที่ยวดอยสุเทพ,ดอยตุง เลี้ยวซ้ายแวะเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ไปทักทายสัตว์ต่างๆกันก่อน บัตรผ่านประตูเข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ปกติ บัตรผู้ใหญ่ (ชาวไทย) 50 บาท บัตรเด็ก สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร (ชาวไทย) 10 บาท ชาวต่างชาติ Adult 100 บาท ชาวต่างชาติ Child (Under 135 cm) 50 บาท บัตรผ่านประตูเข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่รวมขนส่งมวลชนภายใน (รถไฟฟ้ารางเดี่ยว+รถบริการ) บัตรผู้ใหญ่ (ชาวไทย) 90 บาท บัตรเด็ก สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร (ชาวไทย) 35 บาท ชาวต่างชาติ Adult 150 บาท ชาวต่างชาติ Child (Under 135 cm) 100 บาท บัตรรถบริการชมรอบสวนสัตว์เชียงใหม่ และบริการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว กรณีซื้อแยกจากบัตรเข้าชมสวนสัตว์ บัตรผู้ใหญ่ (ชาวไทย) 70 บาท บัตรเด็ก สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร (ชาวไทย) 50 บาท ชาวต่างชาติ Adult 70 บาท ชาวต่างชาติ Child (Under 135 cm) 50 บาท บัตรเข้าชมหมีแพนด้า บัตรผู้ใหญ่ (ชาวไทย) 50 บาท บัตรเด็ก สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร (ชาวไทย) 20 บาท ชาวต่างชาติ Adult 100 บาท ชาวต่างชาติ Child (Under 135 cm) 50 บาท บัตรเข้าชมศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ "เชียงใหม่ ซู อควาเรียม"รวมบัตรผ่านประตูหน้าสวนสัตว์และรถบริการเข้าชม(จำหน่ายหน้าประตูทางเข้าสวนสัตว์) บัตรผู้ใหญ่ (ชาวไทย) 290 บาท บัตรเด็ก สูง 90 -135 เซนติเมตร (ชาวไทย) 190 บาท ชาวต่างชาติ Adult 520 บาท ชาวต่างชาติ Child (Under 135 cm) 390 บาท ค่าดำผิวน้ำดูปลา บัตรเด็ก 500 บาท บัตรผู้ใหญ่ 500 บาท ค่าสำรวจโลกใต้ทะเล บัตรเด็ก 190 บาท บัตรผู้ใหญ่ 290 บาท บัตรเข้าชมเขียงใหม่ซูสโนวโดม บัตรผู้ใหญ่ (ชาวไทย) 150 บาท บัตรเด็ก สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร (ชาวไทย)100 บาท ชาวต่างชาติ Adult 150 บาท ชาวต่างชาติ Child (Under 135 cm)100 บาท เปิดให้เข้าชมรอบละ 30 นาที เวลา 9.45 - 17.40 น. ทุกวัน บัตรจอดยานพาหนะ รถยนต์ 50 บาท รถจักรยานยนต์10 บาท รถจักรยาน 1 บาท บัตรรถบริการชมรอบสวนสัตว์เชียงใหม่ บัตรผู้ใหญ่ (ชาวไทย) 20 บาท บัตรเด็ก สูงไม่เกิ135 เซนติเมตร (ชาวไทย)10 บาท ชาวต่างชาติ Adult 20 บาท ชาวต่างชาติ Child (Under 135 cm.) 10 บาท ผู้สูงอายุ 10 บาท บัตรรถไฟฟ้ารางเดี่ยวชมรอบสวนสัตว์เชียงใหม่ บัตรผู้ใหญ่ (ชาวไทย) 70 บาท บัตรเด็ก สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร (ชาวไทย) 50 บาท ชาวต่างชาติ Adult 150 บาท ชาวต่างชาติ Child (Under 135 cm) 100 บาท ผู้สูงอายุ 70 บาท บัตรเข้าชมแอดเวนเจอร์พาร์ค บัตรผู้ใหญ่ (ชาวไทย) 20 บาท บัตรเด็ก สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร (ชาวไทย) 10 บาท การรเดินทาง 1.ใช้เส้นถนนห้วยแก้ว สวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ ห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 800 เมตร 2.ใช้เส้นทางถนนสุเทพผ่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งอยู่ทางขวา 3.ขึ้นรถสองแถวปรจำทาง(สีแดง ค่าโดยสารต่อรองกับคนขับรถ) พิกัดดาวเที่ยม n18.808991,e98.946991 แผนที่การเดินทาง |