ส่งต่อให้เพื่อน |
ถ้ำเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อำเภออำเภอเชียงดาว ถ้ำเชียงดาว อยู่ในบริเวณวัดถ้ำเชียงดาว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่สนใจในความสวยงามของถ้ำธรรมชาติ และพระพุทธรูปต่างๆ ที่อยู่ในถ้ำ |
|||||||||||||||||||||||||||||
ถ้ำเชียงดาว เป็นถ้ำที่น่าสนใจถ้ำหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในเขต อำเภอเชียงดาว ตั้งอยู่เชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาว ภายใน แต่ละถ้ำ มีความงามจากการเสกสรรปั้นแต่งของธรรมชาติ ชวนให้ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์ของหินงอกหินย้อย ที่ก่อให้ เกิด รูปร่างต่างๆเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ภายในมีหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่สวยงาม บางแห่งเป็นซอกหลืบ เมื่อฉายไฟ จะมีประกายระยิบระยับ สามารถจินตนาการเป็นรูปต่างๆได้มากมาย เสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่อยู่ตรงที่มีน้ำใส่ไหลเย็นจากในถ้ำไหล ออกมาที่บริเวณหน้าถ้ำ เป็นอย่างนี้ชั่วนาตาปีไม่มีเหือดหาย และไหลมารวมกันเป็นสระน้ำมีปลาน้อยใหญ่ว่ายวนไปมา ทำให้ บรรยากาศสดชื่นและยังร่มรื่น ด้วยพันธุ์ไม้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมากและ ตรงหน้าถ้ำนี้เองเป็นที่ตั้งของวัดถ้ำเชียงดาว ถ้ำหลวงเชียงดาวเป็นโบราณสถานที่ผู้คนมากมายเลื่อมใสศรัทธา ซึ่งอาจเป็นเพราะได้รู้เรื่องราวอัศจรรย์แต่ในหนหลังที่เล่าสืบ ต่อกันมา นั่นก็คือเจ้าหลวงคำแดง เป็นบุตรชายของเจ้าผู้ครองเมืองพะเยา ได้ทิ้งบ้านเมืองเพื่อออกตามหาหญิงสาวที่แปลงร่าง เป็นกวางทอง เพราะหลงรูปโฉมที่สวยงาม ซึ่งหายลับเข้าไปในถ้ำหลวงเชียงดาว เจ้าหลวงคำแดงจึงได้ตามเข้าไปในถ้ำเช่นเดียวกัน โดยไม่ได้กลับออกมาอีกเลย หากแต่ไม่จุติใหม่เป็นเทวดาผู้มีฤทธิ์อยู่ในภายถ้ำ และปกปักรักษาถ้ำหลวงเชียงดาว ต่อมาชาวบ้านได้ สร้างศาลถวายท่านและตั้งชื่อว่า“ศาลพ่อหลวงคำแดง”ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ในคืนที่มีนิมิตหมายอันดี อีกทั้งบนท้องฟ้าก็ ไร้เมฆ หมอก จะปรากฏลูกกลมๆ มีแสงสว่างคล้ายพระธาตุลอยออกมาจากหลังดอยเชียงดาวแล้ว เคลื่อนไปทางทิศตะวันออก เป็นเวลา 5 นาที ก็จะได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงของปืนใหญ่พร้อมกับแสงสว่างนั้นก็หายไปด้วย ชาวบ้านมักจะเชื่อกันว่า เป็นวิญญาณของ เจ้าหลวงคำแดง ไปเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอนที่เมืองพะเยา ที่ทางเข้าถ้ำเชียงดาวเป็นบันได โดยมีหลังคามุงสังกะสี นอกจากนั้นบริเวณหน้าถ้ำยังมีธารน้ำไหลผ่านเต็มไปด้วยปลาหลายชนิด ด้านขวามือตรงกลางสระเป็นเรือสำเภาหิน ค่าเข้าเข้าชมคนละ 10 บาท หรือหากนักท่องเที่ยวต้องการชมบริเวณถ้ำทั้งหมด ก็สามารถติดต่อคนนำทางได้บริเวณหน้าถ้ำ ก่อนจะเข้าจะภาพในถ้ำนักท่องเที่ยวจะมากราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันก่อนเดินเข้าชมด้านในถ้ำ พระพุทธรูปอยู่บริเวณปากถ้ำ สำหรับเส้นทางเดินชมถ้ำมีหลายทางดังต่อไปนี้ - เส้นทางแรก คือ ถ้ำพระนอน เส้นทางนี้ยาว 360 ม ระหว่างทางเดินไปถ้ำพระนอนจะพบกับหินงอกหินย้อยเป็นรูปต่างและจะพบกับหินรูปปั้นยักษ์นอนอยู่ระหว่างทางเดิน เชื่อกันว่ายักษ์นอนเฝ้าองค์พระนอน - เส้นทางที่ 2 คือ ถ้ำแก้ว ถ้ำน้ำ ยาว 734 ม. ภายในถ้ำเป็นโพร่งที่มีความยิ่งใหญ่และกว้างมาก สามารถจุคนไปนร้อยคนและที่น่าแปลกใจคือในถ้ำไม่มีความรู้สึกอึดอัดหรือมีกลิ่นขี้ค้างคาวเลย แต่กลับรู้สึกเย็นสบาย - เส้นทางที่ 3 คือ ถ้ำมืด ถ้ำม้า ยาว 735 ม. ที่ปลายถ้ำจะมีบ่อที่ลึกประมาณ 20 เมตรเมื่อมาถึงตรงนี้นักท่องเที่ยวต้องใช้ความระมัดระวังมากๆ ภายในแต่ละถ้ำต่างมีความงามจากการเสกสรรปั้นแต่งของธรรมชาติ ชวนให้ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์ของหินงอกหินย้อยที่ก่อให้เกิดรูปร่างต่างๆ มีชื่อเรียกตามลักษณะรูปทรง เช่น หินโคมไฟเทวดา หินดอกบัวบาน หินมือยักษ์ หินดอกบัวพันชั้น โดยเฉพาะภายในถ้ำแก้ว เมื่อยามกระทบแสงสว่างนั้นดูงดงาม ตระการตา เพราะจะเห็นเป็นแสงระยิบระยับคล้ายประกายของเพชรเลยทีเดียว ถ้ำน้ำภายในถ้ำเกิดจากน้ำฝนที่ตกลงบนเทือกดอยเชียงดาวแล้วไหลรวมลงสู่อ่างสลุง แต่เทือกดอยเชียงดาวเป็นภูเขาหินปูนจึงไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ น้ำเหล่านั้นจึงไหลลงสู่โพรงถ้ำเบื้องล่างแล้วไหลออกจากปากถ้ำลงสู่ลำห้วย จากลำห้วยไหลลงสู่แม่น้ำสายเล็กๆ กลายเป็นแม่น้ำปิง เทือกดอยเชียงดาวจึงเป็นต้นกำเหนิดสายน้ำเล็กๆ อีกสายหนึ่งของแม่น้ำปิง คือว่าต้นกำเหนิดแม่น้ำสายใหญ่จะเกิดจากลำห้วยเล็กๆ สายหลายไหลมารวมกัน อาจจะมาจากดอยโน้นบ้างดอยนั้นบ้าง ทุกๆ สายในพื้นที่ต้นน้ำจึงล้วนเป็นต้นกำเหนิดแม่น้ำทั้งนั้น มิใช่ว่าต้นกำเหนิดแม่น้ำจะไหลออกมาจากรูหนึ่งเหมือนน้ำประปาแตกแล้วไหลเป็น แม่น้ำก็ไม่ใช่ ถ้ำเชียงดาวคือสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น กำลังรอค่อยให้นักท่องเที่ยวให้มาพิสูจน์ความงามของถ้ำเชียงดาวแล้ว
|