Shopdd เว็บสำเร็จรูปฟรี
Banner 2x
  • 1
  • 2
Home
Travel
Hotel
Restuarant
Photo
Business
Health
Beauty
Tamma
Webboard
Contact
น่าน
พะเยา
ลำปาง
ลำพูน
อุตรดิตถ์
เชียงราย
เชียงใหม่
แพร่
แม่ฮ่องสอน
กรุงเทพมหานคร
กำแพงเพชร
ชัยนาท
นครนายก
นครปฐม
นครสวรรค์
นนทบุรี
ปทุมธานี
พระนครศรีอยุธยา
พิจิตร
พิษณุโลก
ลพบุรี
สมุทรปราการ
สมุทรสงคราม
สมุทรสาคร
สระบุรี
สิงห์บุรี
สุพรรณบุรี
สุโขทัย
อ่างทอง
อุทัยธานี
เพชรบูรณ์
กาฬสินธุ์
ขอนแก่น
ชัยภูมิ
นครพนม
นครราชสีมา
บึงกาฬ
บุรีรัมย์
มหาสารคาม
มุกดาหาร
ยโสธร
ร้อยเอ็ด
ศรีสะเกษ
สกลนคร
สุรินทร์
หนองคาย
หนองบัวลำภู
อำนาจเจริญ
อุดรธานี
อุบลราชธานี
เลย
จันทบุรี
ฉะเชิงเทรา
ชลบุรี
ตราด
ปราจีนบุรี
ระยอง
สระแก้ว
กาญจนบุรี
ตาก
ประจวบคีรีขันธ์
ราชบุรี
เพชรบุรี
กระบี่
ชุมพร
ตรัง
นครศรีธรรมราช
นราธิวาส
ปัตตานี
พังงา
พัทลุง
ภูเก็ต
ยะลา
ระนอง
สงขลา
สตูล
สุราษฎร์ธานี

ส่งต่อให้เพื่อน
พระพุทธไสยาสน์ถ้ำภูค่าว

จังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอสหัสขันธ์

พระนอน ที่แปลกที่สุดน่าจะอยู่ที่ วัดพุทธนิมิต (ภูค่าว) ตั้งอยู่ บ้านนาสีนวล ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 7 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนภูเขาขนาดย่อม

          วันนี้เราทีมงานบ้านแสนสุขดอทคอม จะพาทุกคนเดินทางสู่ดินแดนบูรพาจารย์ภาคอีสานกัน ในครั้งนี้บ้านแสนสุขดอทคอม ได้มีโอกาสเดินทางไปยัง อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อแวะไปเที่ยวและเยี่ยมชม วัดพุทธนิมิต (ภูค่าว) “ค่าว” เป็นภาษาอีสานแปลว่า เชือก เพราะวัดนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีลักษณะยาวเหมือนเชือก ทางอีสานจึงเรียกว่า เชือกค่าว จึงเป็นที่มาของวัดนี้ วัดนี้ตั้งอยู่ที่บ้านนาสีนวล ตำบลสหัสขันธ์ ห่างจากตัวอำเภอสหัสขันธ์ประมาณ 7 กิโลเมตร และห่างจากภูสิงห์ประมาณ 4 กิโลเมตร

          พระพุทธไสยาสน์ตะแคงซ้ายโดยเป็นปูชนียวัตถุโบราณแห่งแรกของ จ.กาฬสินธุ์ ที่กรมศิลปากรรับจดขึ้นทะเบียน หลังจากที่ "สมเด็จพระมหาวีรวงษ์" (อ้วน ติสฺสมหาเถร) อดีตปฐมสังฆนายกแห่งคณะสงฆ์ไทย วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพฯ ได้มากราบพระไสยาสน์องค์นี้ เมื่อ พ.ศ.2484 มีบัญชาให้อธิบดีกรมศิลปากร จดทะเบียนไว้

        โดยองค์พระไสยาสน์ มีความยาว 2 เมตร กว้าง 50 เซนติเมตร ตำแหน่งที่ประทับอยู่หน้าปากถ้ำกว้างประมาณ 5 เมตร สูงจากพื้นระดับเพดานถ้ำประมาณ 3 เมตร ลานด้านหน้าองค์พระกว้างประมาณ 10 เมตร และที่แปลกอย่างที่กล่าวไว้คือ พระไสยาสน์องค์นี้ตะแคงซ้าย ผู้รู้ได้สันนิษฐานว่า เป็นสัญลักษณ์ของ "พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า" พระอัครสาวกเบื้องซ้ายขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในช่วงประเพณีสงกรานต์จะแห่แหนไปสรงน้ำขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องเพราะพระพุทธไสยาสน์องค์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นตำนานเล่าขาน

          "พรชัย ไชยคำมี" (นธ.เอก ปธ.) อดีตผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ พ.ศ.2523 ได้เรียบเรียงไว้ในหนังสือประวัติถ้ำพระภูค่าว ว่า นายสากับพรรคพวกชาวขอมเป็นผู้สร้าง โดยแกะสลักองค์พระไสยาสน์ในถ้ำนี้ เมื่อครั้งหลังการสมโภชองค์พระธาตุพนมและบรรจุพระอุรังคธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าราว พ.ศ.8 หากเมื่อนับมาถึง พ.ศ.2552 ก็จะมีอายุนานถึง 2,544 ปี นับว่าเก่าแก่มากที่สุดองค์หนึ่ง

 

          ตำนานเล่าขานว่า ครั้งเมื่อพระเจ้าศรีโคตรบูรณ์หรือพระยาขอม ประมาณปี พ.ศ.8 มีพระมหากัสสปเถรเจ้าเป็นองค์ประธาน พรั่งพร้อมด้วยพระอรหันต์ขีณาสพ 500 องค์ ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุ (กระดูกหน้าอก) ขององค์พระพุทธเจ้า เสด็จมาโดยทางญาณวิถีนภากาศ (เหาะมาทางอากาศ) ลงสู่ "ภูกำพร้า" วัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้พร้อมใจกันสร้างอุโมงค์ โดยเอาดินดิบมาก่อเรียงกันขึ้นเป็นรูปเตาสี่เหลี่ยม เสร็จแล้วเอาไฟเผาให้สุก มีประตูปิดเปิดได้ทั้ง 4 ด้าน สูงประมาณ 5 เมตร เมื่อเสร็จและกระทำพิธีฐาปนา (บรรจุ) พระอุรังคธาตุไว้ในอุโมงค์นั้น และให้ชื่อว่า "พระธาตุพนม" จากนั้นพระมหากัสสปเถรเจ้า พร้อมด้วยหมู่พระอรหันต์ขีณาสพ 500 องค์ ก็เสด็จกลับสู่กรุงราชคฤห์ในชมพูทวีป

 

          พระเจ้าศรีโคตรบูรณ์จึงได้จัดให้มีการสมโภชองค์พระธาตุพนมอย่างยิ่งใหญ่ จึงได้มีสารบอกไปทางหัวเมืองขอมด้านเขมรต่ำที่เป็นเมืองขึ้น ว่าให้รวบรวมทรัพย์สมบัติอันมีค่า ขึ้นมาทำการสมโภชพระธาตุพนมด้วยกัน ซึ่งทางเขมรต่ำก็ได้รับคำทำตามสารบอกนั้น โดยได้แต่งตั้งผู้มีความสามารถคนหนึ่งชื่อ "นายสา" เป็นหัวหน้าคณะ ทำหน้าที่ควบคุมพรรคพวกและทรัพย์สมบัติ เดินทางขึ้นมาทางเมืองร้อยเอ็ด
 

          การเดินทางของคณะนายสา ได้รอนแรมมาตามระยะทางที่แสนลำบาก ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะมุ่งสู่องค์พระธาตุพนมให้จงได้ ครั้นเดินทางมาถึงบ่อน้ำซับคำม่วง (บ่อคำม่วง) ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของภูค่าวไม่ไกล ขณะที่พักแรมอยู่นี่เอง ก็ได้ทราบข่าวว่าการสมโภชองค์พระธาตุพนมได้เสร็จสิ้นลงแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้นายสากับพรรคพวก จึงได้ปรึกษากันว่า บรรดาทรัพย์สมบัติที่ขนกันมานี้จะทำประการใด ถ้าจะขนกลับไปก็ดูจะไม่สมควร ทั้งการเดินทางก็สุดแสนลำบากยากยิ่งและแสนไกล ในที่สุดก็ได้ลงความเห็นกันว่า น่าจะฝังทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไว้ จึงได้ลงมือแกะสลักรูปองค์พระอรหันต์ขีณาสพพระมหาโมคคัลลานเถรเจ้า อัครสาวกเบื้องซ้ายขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยให้มีลักษณะในอิริยาบถไสยาสน์ตะแคงซ้าย หันเศียรไปทางด้านที่พระธาตุพนมตั้งอยู่ คือด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และถือเป็นนิมิตมงคลว่า พระธาตุพนมนั้น เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้า ที่เสด็จประทับอยู่ด้านทิศที่เศียรพระไสยาสน์หันไป พร้อมได้ฝากคำปริศนา ให้ผู้คนรุ่นต่อมาเข้าใจว่าเป็นลายแทงแหล่งสมบัติที่ว่า "พระหลงหมู่อยู่ภูถ้ำบก แสงตาตกมีเงิน 7 แสน คำ 7 แสน ไผหาได้กินทานหาแหน่ เหลือจากนั้นกินเลี้ยงบ่หลอ"

          เพราะเชื่อว่าบริเวณที่พระไสยาสน์ประทับอยู่จะมีทรัพย์สมบัติมากมายฝังอยู่ คำบอกเล่าระบุว่ามีคนเข้าไปขุดค้นหาจำนวนมากแต่สุดท้ายกลุ่มคนผู้นั้นก็จะมีอันเป็นไปทุกราย จนทำชาวบ้านทั้งใกล้และไกล ต่างมีความเลื่อมใสศรัทธามาสักการะอธิษฐาน ขอความเป็นสิริมงคลมิได้ขาด

 

          แรงศรัทธาที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสายนี้ นำมาซึ่งการพัฒนาวัดพุทธนิมิต (ภูค่าว) จนมีความเจริญรุ่งเรืองตามลำดับ ได้รับการยกย่องชื่นชมจากสาธุชนทั่วไปว่า เป็นวัดที่มีทัศนียภาพสวยงามยิ่ง วัตถุธรรมและเสนาสนะสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ล้วนวิจิตรอลังการ ประหนึ่งเป็นพุทธสถานแห่งการท่องเที่ยวทั้งทางโลก-ทางธรรม และคงความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในที

          นอกเหนือจากพระไสยาสน์อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว ความสวยงามของทัศนียภาพของภูค่าว ความงดงามของพระอุโบสถไม้แบบเปิด แกะสลักลวดลายงดงาม ตามประตู หน้าต่าง เพดาน เป็นภาพพุทธประวัติ ทศชาติชาดก และยังมีวิหารสังฆนิมิตร ซึ่งเป็นที่เก็บพระพุทธรูป และพระเครื่องรุ่นต่างๆ ที่หายากจำนวนมาก

 

การเดินทาง
         
ห่างจากตัวอำเภอสหัสขันธ์ประมาณ 7 กิโลเมตร ห่างจากภูสิงห์ประมาณ 4 กิโลเมตร

พิกัดดาวเทียม : n16.729591,e103.565283

แผนที่
 


Trip on Tour
Home  |  ท่องเที่ยว  |  ที่พัก  |  ตระเวนชิม  |  คุยผ่านเลนส์  |  คัมภีร์เศรษฐี  |  สุขภาพ  |  เสริมสวย  |  แสงธรรมส่องใจ  |  Sitemap  |  ติดต่อเรา
Copyright © 2009 BanSansuk.com
dedicated server, thailand dedicated server, cloud hosting, web hosting and domain name by IC-MyHost