ส่งต่อให้เพื่อน |
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี อำเภอพัฒนานิคม เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ที่ทรงดำริให้สร้างเขื่อนเพื่อเก็บกักน้ำและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม |
|||||||||||||||||||||||||||||||
เขื่อนป่าสัก หลายคนน่าจะรู้จักโดยเฉพาะคนกรุงเทพ เพราะอยู่ไม่ห่างไกลเท่าใดนัก เพียงแค่ร้อยกว่ากิโลเมตรก็ถึงแล้วเขื่อนป่าสักเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดลพบุรีและสระบุรี ที่ใครต่อใครอยากไปเห็น ปัจจุบันเปิดมาได้ 4 ปีกว่าแต่ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่ขาดสาย เป็นจุดแวะเที่ยวก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น ใครจะไปเขาใหญ่ นครราชสีมา หรือภาคอีสาน ก็ถือโอกาสแวะถ้าหากไม่รีบเร่งจนเกินไป หรือใครผ่านสระบุรีเพื่อไปยังจังหวัดเพชรบูรณ์ ก็อาจเลี้ยวเข้ามาชมเขื่อนกันก่อนที่จะเดินทางกันต่อ และถ้าเป็นเทศกาลดอกทานตะวันด้วยแล้ว บอกได้เลยว่าเหมือนมีมหกรรมกันทีเดียว แห่กันมาดูดอกทานตะวันเสร็จ ก็จะไปแออัดกันต่อที่เขื่อนป่าสัก ทำให้ถนนสายเล็กๆของท้องถิ่นที่เคยเงียบสงบกลายเป็นถนนท่องเที่ยวสายสำคัญ มีรถราวิ่งกันให้ควักไขว่ทั้งรถเก๋ง รถตู้ รถปิกอัพ และรถทัศนาจร เขื่อนป่าสักตั้งอยู่ในเขต ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ส่วนพื้นที่อ่างเก็บน้ำจะกินพื้นที่ไปถึง จ.สระบุรี ดังนั้นเขื่อนป่าสักจึงดูเหมือนว่าอยู่ในพื้นที่ของสองจังหวัด และเส้นทางมาเที่ยวเขื่อนก็มาได้สองทาง จากสองจังหวัดเช่นกัน อ่างเก็บน้ำในเขื่อนที่เห็นเป็นบริเวณกว้างนั้น มาจากแม่น้ำป่าสักจังหวัดเพชรบูรณ์ ใครเคยไปเที่ยวเพชรบูรณ์ หล่มสัก หล่มเก่าหากมองเห็นภูเขาสวยๆที่อยู่ข้างทางละก้อ นั่นแหละคือต้นน้ำที่ไหลลงคลองเล็กคลองน้อย มารวมกันเป็นแม่น้ำป่าสัก สู่ปลายทางที่อ่างเก็บน้ำในเขื่อน ถ้าจะลำดับความเป็นมาของเขื่อนป่าสัก คงต้องย้อนอดีตไปไกลหน่อย คือตั้งแต่ ปี 2497 หรือเมื่อ 50 ปีก่อน ที่อยู่ในแผนพัฒนาของกรมชลประทานในการพัฒนาลุ่มแม่น้ำป่าสักเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งปัญหาก็มาจากการขาดแคลนน้ำที่ไม่เพียงพอ จากนั้นในปี 2508 ก็เริ่มศึกษาโครงการเขื่อนกักเก็บน้ำป่าสัก วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเกิดอุทกภัยของลุ่มแม่น้ำป่าสักไปจนถึงกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งขณะนั้นก็มีแนวคิดที่จะสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำที่ อ.แก่งคอย สระบุรี แต่ก็ล้มเลิกเนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสูง มาถึงปี 2532 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานศึกษาอย่างจริงจังและเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย จากนั้นโครงการนี้ก็ได้ผ่านเห็นชอบจากคณะกรรมการศึกษาในด้านต่างๆมาโดยตลอด เช่นด้านสิ่งแวดล้อม และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับราษฏร รวมทั้งโครงสร้างของชั้นดิน โดยว่าจ้างบริษัทต่างชาติมาทำการศึกษา และวันที่ 3 พฤษภาคม 2537 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้เปิดโครงการก่อสร้าง โครงการเขื่อนเก็บกักน้ำแม่น้ำป่าสัก และดำเนินการก่อสร้างในปีเดียวกัน 15 มิถุนายน 2541 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จประกอบพิธีเริ่มการเก็บกักน้ำเป็นปฐมฤกษ์ และวันที่ 7 ตุลาคม 2541 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อ “ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ” 25 พฤศจิกายน 2542 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จเปิดเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ผลจากโครงการเขื่อนป่าสัก ได้ทำให้ราษฏรมีอาชีพใหม่ คืออาชีพประมง ที่สามารถจับปลาจากอ่างเก็บน้ำมาขาย สร้างรายได้สร้างอาชีพได้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ไปเที่ยวเขื่อนก็จะเห็นตลาดนัดจำพวกปลานานาชนิดวางขายเป็นจำนวนมาก เช่น ปลาย่างปลาแดดเดียว ปลาทอด และการแปรรูปจากปลาชนิดต่างๆ เช่นปลาส้ม ทอดมันปลากราย ไปเที่ยวแล้วก็อย่าลืมอุดหนุนกันหน่อยเป็นการช่วยเหลือคนในพื้นที่ได้โดยตรง หรืออยากจะทานปลากันแบบสด ๆ จากเขื่อน ในบริเวณแถว ๆ นั้น ก็มีอยู่หลายร้านทานไปด้วยชมวิวบริเวณทะเลสาบไปด้วย เขื่อนป่าสักอยู่ใกล้กรุงเทพแค่นี้เอง หากใครจะมาเที่ยวก็สามารถจัดทริปการเดินทางได้ภายในวันเดียว โดยพ่วงสถานท่องเที่ยวใกล้เคียงเข้าไปด้วย เช่นจังหวัดลพบุรี หรืออีกเส้นทางหนึ่งก็อาจเที่ยวเขาใหญ่ไปพร้อม ๆ กัน ปัจจุบันพื้นที่ในแถบนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและมีจุดแวะอยู่หลายแห่ง เช่น ฟาร์มโชคชัย ไร่องุ่น น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ถ้ำต้นไม้ และที่ขาดไม่ได้ก็คือตลาดนัดมวกเหล็กที่มีสโลแกนว่า "นมดีกระหรี่ดัง" ก็คือได้ดื่มนมสด ๆ จากฟาร์มโคนมของเกษตรกรในระแวกนั้น และได้ทานกระหรี่พับชั้นยอดที่อร่อยกันเกือบทุกร้าน และยังได้อุดหนุนสินค้าพืชผักผลไม้จากชาวสวนของท้องถิ่น การเดินทาง พิกัดดาวเทียม : n14.964687,e101.022677 แผนที่ |