ส่งต่อให้เพื่อน |
ข้าวแกงป่าไม้ จังหวัดสงขลา อำเภอเมือง ที่อยู่ : 55 ถ.ไทรบุรี อ.เมือง สงขลา |
||||||||||||||||||
ในระหว่างที่พวกเรากำลังถกกันว่าว่าเที่ยงนี้จะเจริญอะไรกันดีอยู่ที่หน้าแผงขายหนังสือเล็กๆใกล้ตลาดทรัพย์สินฯ ในตัวเมืองสงขลา เจ้าของร้านขายหนังสือ ไม่รู้ว่ารำคาญ หรือ หวังดี แกก็ตะโกนขึ้นมาในกลางวงสนทนาของเราเป็นเสียงซาวด์แทร็คผสมเวอร์ชั่นภาษากลางสำเนียงใต้มีใจความว่า ให้ไปกินข้าวแกงป่าไม้ซิ อร่อยอย่างแรงนั้นน.. พร้อมกับชี้มือบอกทางให้เราเดินต่อไปอีกสัก 100เมตรก็ถึงแล้ว บร๊ะ...ได้เรื่องแน่ เจ้าถิ่นรุ่นใหญ่ชี้ทางให้แบบนี้ รับรองโดนแน่นอน แต่จะว่าไปก็แอบงงเหมือนกัน อะไกันข้าวแกงป่าไม้อะไร? แต่ไม่เป็นไร ไหนๆก็จะไปอยู่แล้ว เดี๋ยวก็รู้ว่าคืออะไร แล้วพวกเราเดินไปตามคำบอกของลุงร้านหนังสือพิมพ์ไม่ทันได้เหนื่อยก็ถึงที่หมายครับ ร้านนี้เป็นร้านที่ปลูกอยู่ในบ้านไม้เก่าๆ ตรงพื้นที่ร้านกับส่วนที่นั่งกินเป็นเพิงหลังคาสังกะสีผสมกระเบื้อง ทันที่ที่เดินย่างกายเข้าไปในร้านสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ กลิ่นอาหารที่หอมสุดเย้ายวนเตะจมูกพวกเราอย่างแรงชนิดที่ว่ากลิ่นขนาดนี้ไม่มีเปลี่ยนใจแน่นอน มาพร้อมกันจนแทบจะแยกไม่ออกกับความร้อนที่แผดลงมาจากใต้หลังคาสังกะสี เรียกได้ว่าความร้อนในร้านกับข้างนอกนั้นต่างกันใช้ได้เลย หลังจากเลือกโต๊ะ ...จริงๆแล้วไม่ได้เลือกครับ พอดีคนเค้ากินเสร็จแล้วลุก พวกเราก็ไปหย่อนก้นแทนเป็นลำดับต่อไป ส่วนที่มาของชื่อ ข้าวแกงป่าไม้ ก็คือ เมื่อแรกเริ่มเดิมที่นั้นป้านงเยาว์นั้นขายอยู่ที่กรมป่าไม้จังหวัด ขายที่นั้นอยู่ได้ 12 ปี แล้วก็ย้ายมาขายต่อที่ปัจจุบันจวบจนถึงวันนี้ก็ 35 ปี แล้ว ลองบวกดูว่าป้าแกอยู่หน้าเตามากี่ปี?... ก็หายงงสงสัยกันไปตอนแรกนึกว่าร้านป่าไม้นั้นลูกค้าคงตั้งให้เพราะหน้าร้านก็รกครึมด้วยต้นไม้เหมือนกัน แต่พอเห็นป้ายเก่าๆเด๋อๆในร้านบวกกับคำบอกเล่าของป้าแกเป็นอันเคลียร์กันไป เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปสั่งอาหารก็พบว่า จากจำนวนถาดและหม้อที่วางอยู่บนโต๊ะยาวๆที่เห็นนั้น แม่เจ้า...ที่นี่มีกับข้าวให้เลือกน่าจะใกล้เคียง 50 อย่างเห็นจะได้ งานนี้เลือกไม่ถูกครับ เหมือนใครพร้อมก็สั่งได้เลยไม่ต้องมีคิว ใครจะยืนเลือกถึงบ่ายๆเลยก็ได้นะ แต่น่ากลัวจะเกะกะลูกค้าที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาสั่งอาหารกันนั้นแหล่ะครับ เท่าที่สังเกตุดูกับข้าวที่นี่จะถาดไม่ใหญ่มาก ที่เป็นแบบนี้เพราะว่ากับข้าวจะถูกผัดขึ้นมาให้กินกันร้อนๆ ตลอด หากเดินเข้ามาแล้วเห็นในถาดมีเพียงหลักฐานพอให้เห็นว่ามันเคยมีอะไรอยู่... แล้วอยากกิน ไม่ใช่ปัญหาเดี๋ยวป้าแกผัดให้เดี๋ยวนั้นเลย ร้านข้าวแกงป้านงเยาว์นี้ ยังคงมีการทำกับข้าวที่พวกเรานั้นประทับใจมากในหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งแน่นอนที่สุดการปรุงอาหารที่ละน้อยๆ เพื่อให้ลูกค้าได้กินร้อนใหม่ๆสดๆแบบนี้ เราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนสำหรับร้านข้าวแกง อีกทั้งจำนวนรายการอาหารที่เหลือขนานับ แหม...ฟังดูเว่อร์จริง แต่ที่ไหนมีแบบนี้ รสชาติแบบนี้ ช่วยสงเคราะห์แจ้งพิกัดบ้านแสนสุขผ่านทางเมล์มาหน่อยครับ และสุดท้ายที่ทำให้เรารู้สึกที่สุด กับการปรุงอาหารไทย กับวัฒนธรรมการทำของกินแบบบ้านๆ ที่ร้านค้าส่วนใหญ่ไม่อยากจะใส่ใจ อย่าง"เครื่องพริกแกง" ครับ พริกแกง หรือเครื่องแกงที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ใช้วันละหลายสิบโล ถูกตำสดๆทุกวัน ตำมือด้วยครกกับสากครับ หาใช่ใช้เครื่องบดเหมือนเครื่องแกงที่ขายตามตลาดไม่ อีกทั้งทำใช้กันแบบวันต่อวัน ซึ่งมันหมายถึงเครื่องแกงสดๆนี้ไม่ต้องใส่สารกันบูดไงครับ แล้วไอ้ที่เค้าว่าแกงจะอร่อยนั้นสำคัญที่พริกแกงก็คงจะเป็นเรื่องจริงที่ไม่ต้องเถี่ยงกันให้เมื่อย ถึงตอนนี้คงรู้อย่างที่บ้านแสนสุขได้แจ้งแถลงไขแล้ว.....เชื่อพวกเราเถอะครับว่าแกงป้าแกรสชาติดีจริงๆ อีกทั้งที่ว่ามานี้ป้านงเยาว์แกต้มผัดแกงทอดอาหารทุกรายการด้วยเตาถ่านใบใหญ่เกือบเท่ากระทะ ไอความร้อนและเปลวไฟนั้นร้อนเลียถึงหูกระทะเลย ซึ่งนั้นถือว่าเป็นรายละเอียดความอร่อยเลยแหล่ะครับ กับรายการอาหารสี่สิบห้าสิบอย่างนั้น พวกเราคงกินกันได้ไม่หมดทุกรายการแน่ ยกเว้นซะแต่จะต้องย้ายสำมะโนครัวมาอยู่แถวนี้แหล่ะ รับรองว่าได้ผูกปิ่นโตกินกันจนครบทุกรายการแน่ ครั้งนี้เราเลือกกินแต่เมนูขายดี กับของที่เราอยากกินเท่านั้นแหล่ะครับไม่ว่าจะเป็นแพนงหมู ผัดสะตอเปรี้ยวหวาน ผัดเผ็ดหมูใส่สะตอ ผัดกระเพราะปลาหมึก แกงป่าปลาดุกทะเล ปลากระพงทอดสามรส และอีกเยอะครับ หน้าตาเมนูไหนเข้าตาจัดได้เลยครับอร่อยแน่นอน ระหว่างที่กินกันอยู่นั้นพวกเราบอกได้เลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งมื้อที่ได้อรรถรสในการกินสุดๆ ทั้งบรรยากาศที่โขมงโฉงเฉง รสชาติอาหารที่ครบเครื่องถึงใจ และความร้อน แบบที่ต้องกินไปปาดเหงื่อไป และกระเดือกน้ำกันเป็นระยะ ทั้งนี้ก็เพราะความเผ็ดร้อนของอาหาร และอากาศครับ งานนี้คงต้องของคุณลุงที่ร้านหนังสืออย่างแรงที่แนะนำร้านหรอยๆนี้ให้พวกเรา ในบางจังหวะที่ป้าแกทำกับข้าวนั้น จะมีเสียงฉี่ฉ่า กระทะตลิวเคาะกันโฉ้งเฉ้งอย่างเป็นจังหวะ พร้อมด้วยกลิ่นกับข้าวจานเผ็ดฉุน ให้ลูกค้าได้จามตอบรับวิถีการปรุงของป้านงเยาว์ให้เราได้ยินกันเป็นระยะ โต๊ะนู๊นบ้าง คนนี้บ้าง สลับระงมกันไป กับข้าวกับปลาฝีมือป้านงเยาว์นั้นรสชาติจัดจ้านถึงใจพระเดชพระคุณมาก กลิ่นหอมตลบอบอวลกระทะต่อกระทะ ภายใต้อากาศร้อนๆแบบนี้ ลูกค้าก็ยังแน่นร้านทั้งที่นั่งกิน และซี้อกลับบ้าน อย่าได้สงสัย อย่าได้คิดอะไรมาก คิดข้อเดียวพอว่าถ้ามีโอกาสไปเที่ยวสงขลา จะแวะไปกินที่ร้านป้าแกกี่มื้อดี..จะเหมาะควรกว่านะครับ ร้านเปิดขายจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 07.00- 14.00 น.(เสาร์-อาทิตย์หยุด) การเดินทาง ร้านข้าวแกงป้าไม้ของป้านงเยาว์นั้น อยู่บนนถนนไทนบุรี ตรงข้ามกับวัดดอนแย้ในตัวเมืองสงขลา บอกมอเตอร์ไซด์รับจ้างหรือรถตู๊กๆได้เลย(ค่ารถต๊กๆภายในตัวเมืองคนละ 20 บาท) พิกัดดาวเทียม N 7.197596 , E100.590928 แผนที่ < |