"บ้านแสนสุข" ขอแนะนำอาชีพขายอาหารเพื่อสุขภาพ นั่นคือเมี่ยงบัวหลวง หลายๆคนคงคิดว่า เอ๊ะ!ดอกบัวกินได้ด้วยเหรอ ขอบอกว่าคนโบราณเค้ากินกันมานานแล้ว.. อาชีพนี้น่าสนใจไม่น้อย เพราะยุคสมัยนี้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น โอกาสทางการตลาดของสินค้าเพื่อสุขภาพก็มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น ผู้ที่สนใจอาชีพค้าขายลองพิจารณาอาหารว่างเพื่อสุขภาพอย่าง"เมี่ยงบัวหลวง" ดูกันนะ
เมี่ยงคำ จัดเป็นอาหารที่คนภาคกลาง นิยมรับประทานเป็นอาหารว่างในช่วงฤดูฝน เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้นชะพลูผลิใบแตกยอดอ่อนมากที่สุดและจัดเป็นสำรับว่างที่รสชาติดีทีเดียว จริง ๆ แล้วเมี่ยงคำสามารถรับประทานเป็นอาหารว่างได้ตลอดทั้งปีแล้วแต่ว่าจะรับประทานเพื่อความอร่อยหรือจะรับประทานเพื่อการดูแลสุขภาพ เพื่อเป็นการปรับสมดุลธาตุในร่างกายนั่นเอง บ้านเรามักทำเป็นของว่างไว้รับประทานกันในหมู่ญาติยามที่ได้มาอยู่รวมกันแบบพร้อมหน้า สูตรนี้เป็นแบบเพิ่มสมุนไพรบางตัวลงไป สมุนไพรที่ว่าคือข่าแก่นั่นเอง นำข่าแก่ไปเผาไฟก่อนแล้วเอามาทุบๆๆๆ พอให้แตกแล้วใส่ลงไป รับรองได้เคล็ดไม่ลับที่กระซิบบอกนี้จะทำให้น้ำจิ้มเมี่ยงคำหอมขึ้นอีกเยอะเชียว.....
ต้นทุนวัตถุดิบ (ราคา พ.ศ.2556) โดยประมาณ
ต้นทุนน้ำเมี่ยง
น้ำตาลปีป 1 กิโลกรัม ราคา 40 บาท น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง ราคา 5 บาท กะปิ 1/3 ถ้วยตวง ราคา 5 บาท น้ำตาลทราย 1/2 กิโลกรัม ราคา 16 บาท ข่าประมาณ ราคา 5 บาท รากผักชีประมาณ ราคา 5 บาท
รวมต้นทุนน้ำเมี่ยง 76 บาท
ต้นทุนเครื่องเคียง
มะพร้าว 1 กิโลกรัม ราคา 60 บาท กุ้งแห้ง 1 กิโลกรัม ราคา 180 บาท ถั่วลิสง 1กิโลกรัม ราคา 40 บาท ขิง 1กิโลกรัม ราคา 30 บาท มะนาวลูกละ 3 บาท ราคา 60 บาท(ใช้ 20 ลูก) พริกขี้หนู 1/2 กิโลกรัม ราคา 30 บาท หอมแดง 1/2กิโลกรัม ราคา 30 บาท ดอกบัวดอกละ 2 บาท ราคา 50 บาท(ใช้25 ดอก)
รวมต้นทุนเครื่องเคียง 480 บาท
รวมต้นทุนทั้งหมด 556 บาท(โดยประมาณ พ.ศ.2556)
วัตถุดิบทั้งหมดนี้ทำเมี่ยงได้ 25 ชุด
รายได้ ขายชุดละ 50 บาท วัตถุดิบในที่นี้ทำได้ 25 ชุด จะได้ 25x50 = 1,250 บาท
เมื่อหักต้นทุนแล้วจะได้กำไรประมาณ 694 บาท/25ชุด
หมายเหตุ ราคาทุนนี้ยังไม่รวมถึง ค่าเช่าสถานที่ขาย ค่าแก๊สในการประกอบอาหาร ค่าน้ำมันรถไปซื้อของ
คู่มือลงทุน "เมี่ยงบัวหลวง"
ทุนวัตถุดิบประมาณ 60 % ของราคา
ทุนแรงงานประมาณ 300 บาท/วัน/คน ใช้แรงงาน 1 คน
จุดน่าสนใจ เป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพ
ช่องทางการจัดจำหน่าย
ตลาดน้ำในจังหวัดต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ห้างสรรพสินค้าทั่วไป เช่น ออกบูธในห้างสรรพสินค้า งานโอทอปต่างๆ
แหล่งซื้อวัตถุดิบ ตลาดสดใกล้บ้าน ส่วนดอกบัว(พันธ์ปทุมธานี) ก็ซื้อได้ตามร้านขายพวงมาลัย
วิธีทำ/ส่วนผสม (น้ำเมี่ยง)
น้ำตาลปีบ 1 กิโล น้ำตาลทราย 1/2 กิโล น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง น้ำสะอาด 2 ถ้วย กะปิ 1/3 ถ้วยตวง รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ ข่าคั่วโขลก 1 ช้อนโต๊ะ หรือมากน้อยตามชอบ
มาเริ่มทำน้ำเมี่ยงกันเลย ขั้นแรกเคี่ยวน้ำตาลให้เดือดแล้วหรี่ไฟให้น้ำตาลลดระดับลง ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็จะได้น้ำตาลเชื่อมแบบเข้มข้น ค่อนข้างเหนียว ได้น้ำตาลเคี่ยวแบบเข้มข้นแล้วดับไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นตัวสักหน่อยก็จะดี อย่าลืมเอาข่าแก่ที่เราทุบ ใส่ไปออกก่อนด้วยนะหากข้นเกินไปสามารถเติมน้ำต้มสุกอีกหน่อยก็ได้
หลังจากได้น้ำเมี่ยงแล้วก็มาทำมะพร้าวคั่วกันต่อ เริ่มจากนำมะพร้าวมากะเทาะเปลือกและปลอกเปลือกออก บ้างและนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
นำมาคั่วด้วยไฟอ่อนๆให้เหลืองหอม แค่นี้ก็จะได้มะพร้าวคั่วสดใหม่ไม่มีกลิ่นหืนแล้ว...
เมื่อหั่นเครื่องเคียงทุกอย่างครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ขิง หอมแดง มะนาว และอื่นๆ หลังจากนั้นก็นำเอากลีบบัว มาห่อใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงไปราดด้วยน้ำเมี่ยงแค่นี้ก็อร่อยสุดๆแล้ว.
เมี่ยงคำนั้นเป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพจริงๆเลย ดูซิ คนโบราณ เค้าช่างคิด ช่างประดิบประดอยจริง ๆ นั่งหลัง ขดหลังแข็ง เพื่อหั่นเครื่องเมี่ยงชิ้นเล็กชิ้นน้อย
กลีบดอกบัวหลวงจะมีกลิ่นหอมเย็น ๆ แถมสีชมพูอ่อนๆมองดูแล้วสบายตายิ่งนัก เมนู "เมี่ยงบัวหลวง"นี้ใคร สนใจจะนำสูตรไปทำขายทาง"บ้านแสนสุข"ก็ยินดีไม่หวงสูตร
หักต้นทุนแล้วจะเหลือกำไรประมาณ 694 บาท/25ชุด
จุดน่าสนใจ เป็นเมนูของว่างเพื่อสุขภาพนำมาเป็นจุดขาย